ดร.สุทธิพล กสทช.ด้านกฎหมาย เผยปรับปรุงแก้ไขประกาศ กสทช.เรื่องการกำหนดข้อห้ามการกระทำที่มีลักษณะเป็นการครอบงำกิจการโดยคนต่างด้าว พ.ศ.2554 ระดมความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง คาดได้ข้อสรุปก่อนสงกรานต์นี้
30 มี.ค.55 - ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านกฎหมาย ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการบูรณาการและปรับปรุงกฎหมายและระเบียบด้านโทรคมนาคม เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะอนุกรรมการบูรณาการและปรับปรุงกฎหมายและระเบียบด้านโทรคมนาคม ครั้งที่ 6/2555 เมื่อวันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการพิจารณาวาระเรื่องการปรับปรุงแก้ไขประกาศ กสทช.เรื่องการกำหนดข้อห้ามการกระทำที่มีลักษณะเป็นการครอบงำกิจการโดยคนต่างด้าว พ.ศ.2554
เนื่องจากคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) ได้มอบหมายให้คณะอนุกรรมการบูรณาการฯ ทำการศึกษาปรับปรุงแก้ไข โดยนำเอาความคิดเห็นทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย จากเวทีการจัดเสวนาและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่อการบังคับใช้ประกาศดังกล่าวมาประกอบการพิจารณาปรับปรุงแก้ไขในครั้งนี้ด้วย รวมทั้ง กทค.ได้มอบหมายให้สำนักงาน กสทช.มีหนังสือไปหารือกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ และกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ว่าประกาศดังกล่าวมีปัญหาในเรื่องความไม่สอดคล้องกับพันธกรณีของประเทศไทยภายใต้ความตกลง WTO และ ความตกลง GATS หรือไม่ อย่างไร
ทั้งนี้ ที่ประชุม กทค.ได้ให้หลักการในการแก้ไขประกาศฯ ดังนี้ 1.การแก้ไขปรับปรุงประกาศฯ แม้จะมุ่งหมายให้เกิดความเป็นธรรม แต่จะต้องคำนึงถึงการส่งเสริมให้เกิดการแข่งขันการประกอบกิจการโทรคมนาคมที่มีประสิทธิภาพและโดยเสรีด้วย 2.ควรแก้ไขปรับปรุงประกาศฯตามความจำเป็นเพื่อให้เกิดความชัดเจนและช่วยให้ กสทช.สามารถบังคับใช้ประกาศฯภายในกรอบการใช้ดุลพินิจที่เหมาะสม 3. การพิจารณาว่าพฤติการณ์หรือข้อเท็จจริงใดเป็นการฝ่าฝืนข้อห้ามตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในประกาศฯนี้ควรให้เป็นดุลพินิจของกสทช. โดยไม่ต้องส่งเรื่องไปให้หน่วยงานภายนอกเป็นผู้ตัดสินใจแล้วบังคับให้ กสทช.ต้องปฏิบัติตาม ทั้งนี้เพื่อป้องกันมิให้มีการก้าวล่วงในการปฏิบัติหน้าที่ของ กสทช.
อีกทั้งที่ประชุมได้มีการระดมความคิดเห็นกันอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะประเด็นเกี่ยวกับความมั่นคง ในเบื้องต้นที่ประชุมเห็นว่าการนำประเด็นความมั่นคงมารวมกับประเด็นครอบงำโดยคนต่างด้าวทำให้เกิดความสับสน เนื่องจากประกาศฉบับนี้มีเจตนารมณ์ที่จะกำหนดลักษณะที่เป็นการครอบงำกิจการโดยคนต่างด้าว ซึ่งพฤติการณ์การครอบงำในตัวเอง ก็ต้องห้ามอยู่แล้ว โดยไม่จำเป็นต้องนำประเด็นเรื่องการกระทบต่อความมั่นคงของชาติมาเกี่ยวข้อง
กรรมการ กสทช. ยังกล่าวด้วยว่า จากความคิดเห็นของผู้ประกอบการหลายรายเห็นว่าประกาศดังกล่าวได้ให้ดุลพินิจแก่ กสทช. กว้างเกินไปในการยกเว้นพฤติการณ์การครอบงำ หรือ เพิ่มลักษณะการครอบงำฯ ดังนั้นที่ประชุมจึงได้มีการพิจารณาเพื่อกำหนดกรอบการใช้ดุลพินิจของกสทช.ให้มีความชัดเจนและรัดกุมมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ดีทางคณะอนุกรรมการบูรณาการฯ จะพิจารณาแก้ไขปรับปรุงประกาศฯ ฉบับนี้ให้เกิดความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย โดยยึดเอาประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ และคาดว่าจะได้ข้อสรุปก่อนสงกรานต์นี้
สมัครรับข่าวความเคลื่อนไหวจากประชาไท ผ่านทางอีเมล ดูรายละเอียดที่ http://groups.google.com/group/prachatai-newspaper