22 มีนาคม 2555 กลุ่มเคลื่อนไหวเรียกร้องให้ยุติมรดกบาปด้านทรัพยากรของพม่า เตือนนักลงทุนที่เริ่มหลั่งไหลเข้าไปในพม่า ยังขาดความโปร่งใสเกี่ยวกับรายได้ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดมรดกบาปด้านทรัพยากรในประเทศนี้มากขึ้น
ข้อมูลในรายงานของกลุ่ม Arakan Oil Watch องค์กรชุมชนที่ติดตามตรวจสอบโครงการน้ำมันและก๊าซในพม่าระบุว่า รายได้จากก๊าซธรรมชาติหลายพันล้านเหรียญไม่ได้รับการบันทึกข้อมูลอย่างเหมาะสม และไม่ได้เข้ากระเป๋าของรัฐ แต่กลับถูกโยกไปเข้ากระเป๋าของนายทหารที่ทุจริต ส่งผลให้พม่ายังคงเป็นประเทศที่มีดัชนีชีวั้ดด้านสังคมเลวร้ายที่สุดในโลก และเต็มไปด้วยความขัดแย้งเนื่องจากทรัพยากรธรรมชาติ
การส่งออกก๊าซธรรมชาติกลายเป็นแหล่งรายได้จากต่างประเทศใหญ่สุดของพม่า คิดเป็นจำนวน 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อปี นับแต่ปี 2549 เป็นต้นมา โดยคาดว่ารายได้จะเพิ่มขึ้น อีก 60% หลังมีการส่งก๊าซงวดใหม่ไปให้กับประเทศจีนและไทยตั้งแต่ต้นปีหน้าเป็นต้นไป และในปัจจุบัน บริษัทจากต่างชาติหลายแห่งได้เข้ามาสำรวจแหล่งน้ำมันและก๊าซเพิ่มเติมอีก 41 แห่ง
แม้ว่ารัฐบาลใหม่จะพยายามปรับปรุงระบบการจัดทำงบประมาณ แต่ก็ยังไม่เปิดเผยข้อมูลรายได้อย่างละเอียดตลอดจนการใช้จ่ายเงินรายได้จากน้ำมันและก๊าซ บทบาทของหน่วยงานทหารที่ควบคุมดูแลรายได้จากก๊าซก็ดูคลุมเครืออยู่มาก
“ในขณะที่มีแผนการสร้างท่อก๊าซเส้นใหม่ และมีนักลงทุนหลั่งไหลเข้าไปในประเทศมากขึ้น คนพม่าจำเป็นต้องทราบว่ารายได้จากการขายก๊าซธรรมชาติอยู่ที่ไหนและถูกใช้ไปอย่างไรบ้าง” Jockai Khaing แห่งกลุ่ม Arakan Oil Watch กล่าว
“รายได้ใหม่ที่ไม่มีการตรวจสอบ จะยิ่งทำให้ทหารมีบทบาทครอบงำเศรษฐกิจลึกซึ้งขึ้น”
รายงานดังกล่าวเรียกร้องให้มีการกำหนดกฎหมายและจัดตั้งหน่วยงานเพื่อบริหารรายได้จากการขายก๊าซและน้ำมันอย่างโปร่งใส ก่อนที่จะปล่อยให้นักลงทุนจากต่างชาติมาหาประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติต่อไป
ทั้งนี้ พม่าจำเป็นต้องมีกฎหมายที่กำหนดให้มีการประเมินผลกระทบและให้มีการขอความยินยอมอย่างเสรีล่วงหน้า เพื่อสร้างความเข้าใจแก่ชุมชนที่ได้รับผลกระทบ และเพื่อประกันการคุ้มครองสิทธิและสิ่งแวดล้อม
สำหรับรายงานฉบับเต็ม ซึ่งมีกรณีศึกษาระบบความโปร่งใสด้านรายได้จากการขายน้ำมันและก๊าซในประเทศร่ำรวย โปรดดู www.arakanoilwatch.blogspot.com
สมัครรับข่าวความเคลื่อนไหวจากประชาไท ผ่านทางอีเมล ดูรายละเอียดที่ http://groups.google.com/group/prachatai-newspaper