นิชา โภคาพานิชวงษ์
นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
เป็นเรื่องน่าตกใจ ที่อาจารย์สอนกฎหมายถูกทำร้ายร่างกายในรั้วโรงเรียนกฎหมายชื่อดังที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย โดยคาดได้ว่าเป็นเพราะข้อเสนอของอาจารย์ที่ให้แก้กฎหมายฉบับหนึ่ง ในฐานะนักศึกษาคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และในฐานะชาวไทยคนหนึ่ง ดิฉันเห็นว่าเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นสัญญาณเตือนภัยแก่สถาบันการศึกษาและสังคมไทยโดยรวม เมื่อใดที่เราปิดช่องทางการถกเถียงในประเด็นซึ่งเป็นที่โต้แย้ง ช่องทางเดียวที่เหลือคือความรุนแรง
ผ่านไปแล้วหนึ่งเดือนหลังจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้สั่งห้ามกิจกรรมทั้งปวง ไม่ว่าสนับสนุนหรือคัดค้าน อันเกี่ยวข้องกับข้อเสนอแก้ไขกฎหมายมาตรา 112 หรือกฎหมายหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยมหาวิทยาลัยอ้างว่าการห้ามจัดกิจกรรมจะป้องกันมิให้เกิดความขัดแย้งหรือการใช้ความรุนแรงภายในบริเวณมหาวิทยาลัย ตรงกันข้าม ชายสองคนกลับรู้สึกสะดวกใจที่จะเข้ามาในรั้วมหาวิทยาลัยและรอทั้งวันเพื่อที่จะทำร้ายร่างกายอาจารย์วรเจตน์ ในสถานที่พลุกพล่าน ยามกลางวันแสกๆ และห่างเพียงไม่กี่ก้าวจากห้องเรียนของมหาวิทยาลัย
การทำร้ายร่างกายครั้งนี้ยิ่งเป็นเหตุผลให้ธรรมศาสตร์ รวมถึงสถาบันการศึกษาและสถาบันทางกฎหมายอื่นๆ ควรเปิดเวทีถกเถียงอย่างสันติเกี่ยวกับกฎหมายมาตรา 112 สังคมไทยยอมรับได้หรือไม่ในกฎหมายซึ่งปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วยมาตรการที่กว้างขวางและโทษที่รุนแรงกว่าสมัยสมบูรณาญาสิทธิราชย์ หากยอมรับได้ เราก็ควรได้ฟังความเห็นจากทุกฝ่าย แต่อย่าปิดปากประชาชนเลย เพราะเขาจะไม่สามารถได้ยินเหตุผลของกันและกัน เหลือแต่เพียงการตอบโต้ด้วยอารมณ์และความรุนแรง ดังที่เริ่มเกิดขื้นแล้ว
สมัครรับข่าวความเคลื่อนไหวจากประชาไท ผ่านทางอีเมล ดูรายละเอียดที่ http://groups.google.com/group/prachatai-newspaper