คณะทำงานสืบสวนเหตุการณ์ความรุนแรงในซีเรียเผยรายงานระบุ มีเจ้าหน้าที่ทหารซีเรียสั่งการกระทำรุนแรงถึงขั้นอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ ด้านซีเรียปัดไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อความตายของนักข่าวเพราะ 'แฝงตัว' เข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาต
เมื่อวันที่ 23 ก.พ. 2012 คณะทำงานสืบสวนของสหประชาติรายงานสรุปว่าทางรัฐบาลของซีเรียได้ "ละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นรุนแรง" มีการใช้กำลังในระดับที่เรียกว่าเป็นอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ
คณะทำงานสืบสวนของสหประชาชาตินำโดย เปาโล ปินเยโร จากบราซิล ไม่ได้เปิดเผยชื่อเจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนรับผิดชอบต่อเหตุรุนแรงในซีเรีย แต่ก็มีการนำชื่อพวกเขาเหล่านั้นส่งให้กับเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ
ทางคณะทำงานฯ ได้ตีพิมพ์รายงาน 72 หน้า ในนั้นระบุว่ากองกำลังปลดปล่อยซีเรียฝ่ายกบฎเอง ซึ่งเป็นทหารที่ย้ายข้างจากฝ่ายประธานาธิบดีมาอยู่ฝ่ายต่อต้าน ก็กระทำการรุนแรงเช่นเดียวกัน เพียงแต่ไม่อาจเทียบได้กับฝ่ายรัฐในแง่ของการจัดตั้งและระดับความรุนแรง
คณะทำงานสืบสวนเปิดเผยว่ารายงานของพวกเขามาจากการสัมภาษณ์เหยื่อ, ผู้เห็นเหตุการณ์, ทหารบ้ายข้าง และประชาชนอื่นๆ ที่มีความรู้ 'เรื่องภายใน' ของซีเรีย รวมทั้งหมด 369 ราย คณะทำงานฯ ยังได้ตรวจสอบรูปถ่าย, ภาพวีดิโอ และภาพผ่านดาวเทียม เพื่อเทียบเคียงกับคำพูดของพยานด้วย พวกเขาเผยอีกว่าพวกเขาไม่สามารถเข้าไปในซีเรียเพื่อตรวจสอบเหตุการณ์โดยตรงได้
รายงานของสหประชาชาติระบุว่าซีเรียกำลังหมิ่นเหม่ต่อวะสงครามกลางเมือง วิกฤติที่ยังไม่ยุตินี้เพิ่มความเสี่ยงต่อการทำให้ประชาชนมีความสุดโต่งมากขึ้น สร้างความตึงเครียดของคนระหว่างกลุ่ม และบ่อนเซาะโครงสร้างของสังคม
รายงานยังได้กล่าวถึงการทรมานและการสังหารประชาชนอีกด้วย
"ทางคณะทำงานรับหลักฐานที่น่าเชื่อถือได้ว่ามีสมาชิกระดับกลางและระดับสูงของกองทัพซีเรียได้สั่งการให้มีการยิงเข้าใส่ผู้ประท้วงที่ปราศจากอาวุธ สังหารทหารที่ปฏิเสธคำสั่ง จับตัวประชาชนโดยไม่มีสาเหตุ ปฏิบัติต่อผู้ต้องขังอย่างไม่เป็นธรรม และใช้รถถังกับปืนกลยิงเข้าใส่บ้านเรือนประชาชนอย่างไม่เลือก" คณะทำงานสืบสวนของสหประชาติกล่าว
ในรายงานระบุว่ามีหลักฐานที่สามารถโยงเข้าถึงตัวปัจเจกบุคคลรวมถึงที่เป็นเจ้าหน้าที่สั่งการและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทหารที่มีส่วนในการก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ และการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นรุนแรงอื่นๆ
ฝ่ายช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเจออุปสรรคด้านการเข้าถึง
ในขณะที่รายงานฉบับนี้ได้ส่งไปยังคณะมนตรีด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติในกรุงเจนีวา ฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐขอลซีเรียก็ยังคงใช้อาวุธโจมตีเขตเมืองฮอมอย่างต่อเนื่องติดต่อกันเป็นวันที่ 20 แล้ว แม้ว่ามีเสียงเรียกร้องจากนานาชาติให้เปิดทางให้แก่ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมต่อคนป่วยและผู้ได้รับบาดเจ็บ
รัฐมนตรีต่างประเทศของประเทศยุโรปกับอาหรับหลายประเทศประชุมกันที่กรุงลอนดอนในวันที่ 23 ก.พ. เพื่อหารือเรื่องวิธีการส่งเสริมกลุ่มต่อต้านรัฐบาลซีเรีย เรื่องการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมโดยเฉพาะความต้องการทรัพยากรทางการแพทย์อย่างเร่งด่วนในเมืองฮอม ส่วนในวันที่ 24 ก.พ. นี้ก็จะมีการประชุมกลุ่มนานาชาติ "เพื่อนของซีเรีย" ที่กรุงตูนิส ประเทศตูนีเซีย
เจ้าหน้าที่ระดับสูงฝ่ายการต่างประเทศของสหรัฐฯ ที่เดินทางมาพร้อมกับฮิลลารี่ คลินตันเปิดเผยว่า กลุ่มประเทศที่มาร่วมประชุมเหล่านี้พร้อมให้ความช่วยเหลือผ่านทางหน่วยบรรเทาทุกข์ของสหประชาชาติ แต่สิ่งที่ท้าทายคือเรื่องความสามารถในการเข้าถึงซีเรีย
ซีเรียปัดรับผิดชอบต่อการตายของนักข่าวที่ 'แฝงตัว' เข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาต
กรณีการเสียชีวิตของผู้สื่อข่าวชาวตะวันตก 2 รายในซีเรียนั้น นายกรัฐมนตรีของฝรั่งเศสเปิดเผยว่ามีนักข่าวอีกรายที่ได้รับบาดเจ็บชื่อ อีดิธ โบวเวียร์ ผู้สื่อข่าวอิสระของหนังสือพิมพ์ เลอ ฟิกาโร และในวีดิโอของยูทูบยังได้นำเสนอภาพของช่างภาพข่าวอีกรายหนึ่งที่ทำงานร่วมกับมารี โคลวิน คือ พอล คอนรอย ซึ่งกำลังนอนอยู่ที่สถานพยาบาลภาคสนาม สื่อฝรั่งเศสรายงานว่า โบวเวียร์ ได้เรียกร้องให้มีการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนเนื่องจากเธอต้องการการรักษาพยาบาลอย่างทันท่วงที
ทางเจ้าหน้าที่ของอังกฤษก็ได้เรียกตัวเอกอัครราชทูตของซีเรีย ซามี คียามี เข้าพบเพื่อประท้วงการโจมตีเมืองฮอม และเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ของซีเรียส่งร่างของผู้สื่อข่าวที่เสียชีวิตกลับประเทศ
ขณะที่สื่อของรัฐบาลซีเรียรายงานข่าวว่า ทางรัฐมนตรีต่างประเทศของซีเรียได้ปฏิเสธว่าซีเรียไม่มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการตายของนักข่าว ผู้ที่แฝงตัวเข้ามาในซีเรียเองโดยไม่รายงานตัวให้ทางการซีเรียรับทราบว่าพวกเขาเข้ามาทางใดและอยู่ที่ไหน
ที่มา
U.N. Panel Accuses Syria of Crimes Against Humanity, New York Times, 23-12-2012 http://www.nytimes.com/2012/02/24/world/middleeast/shelling-resumes-in-homs-syria-despite-ceasfire-calls.html
สมัครรับข่าวความเคลื่อนไหวจากประชาไท ผ่านทางอีเมล ดูรายละเอียดที่ http://groups.google.com/group/prachatai-newspaper