เกิดเหตุเพลิงไหม้เรือนจำครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบร้อยปีที่เรือนจำโคมายากัว ประเทศฮอนดูรัส เผยระบบเรือนจำแย่ ผู้ต้องขังกว่าครึ่งยังเป็นแค่ผู้ต้องสงสัย ญาติผู้ต้องขังแสดงความไม่พอใจ
16 ก.พ. 2012 - จากเหตุการเพลิงไหม้เรือนจำโคมายากัวในประเทศฮอนดูรัสเมื่อวันที่ 14 ก.พ. ที่ผ่านมา ทางการของฮอนดูรัสก็ออกมาประกาศว่ามีผู้เสียชีวิตจากเหตุการเพลิงไหม้ดังกล่าว 355 ราย
สำนักข่าว BBC รายงานว่า ทางการฮอนดูรัสได้พยายามระบุตัวตนของเหยื่อในเหตุการณ์เพลิงไหม้และได้เคลื่อนย้ายศพจากเรือนจำโคมายากัวไปยังสถานที่เก็บศพชั่วคราวในกรุงเตกูซิกัลปาห่างออกไป 100 กม.
ญาติของผู้เสียชีวิตต่างเดินทางมาที่กรุงเตกูซิกัลปาเพื่อรอรับศพ ทางรัฐบาลสัญญาว่าจะทำการมีการสืบสวนเหตุการณ์เพลิงไหม้ในครั้งนี้และยอมรับว่าระบบของเรือนจำต้องได้รับการปฏิรูป
โฆษกสำนักงานอัยการแผ่นดินของฮอนดูรัสเปิดเผยว่าจำนวนยอดผู้เสียชีวิตในขณะนี้อยู่ที่ 355 ราย ซึ่งถือเป็นเหตุเพลิงไหม้เรือนจำครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบศตวรรษ
โดยในคืนเกิดเหตุมีการลำเลียงศพผู้เสียชีวิต 115 ศพ ไปยังเมืองหลวง และในตอนเช้าวันถัดมาอีก 238 ศพ มีผู้ต้องขังเรือนจำ 2 รายเสียชีวิตในโรงพยาบาล ฮอนดูรัสจำเป็นต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญจากต่างชาติในการระบุตัวผู้เสียชีวิตบางส่วนที่ถูกไฟคลอกสาหัสจากประวัติทันตกรรมและดีเอ็นเอ
ผู้รอดชีวิตเล่าว่าเพื่อนผู้ต้องขังของเขาพยายามเอาตัวรอดโดยการพยายามวิ่งเข้าหาฝักบัวฉีดน้ำหรืออ่างน้ำในคืนที่เกิดเพลิงไหม้ลามไปทั่ว
"ผมตื่นขึ้นมา ได้ยินเสียงร้องระงมจากเพื่อนผู้ต้องขังที่ได้พังเพดานไม้กับสังกะสีไปเรียบร้อยแล้ว" ผู้รอดชีวิตกล่าว
วิลล์ แกรนท์ ผู้สื่อข่าว BBC รายงานบรรยากาศหลังเกิดเหคุเพลิงไหม้ว่า 24 ชั่วโมงหลังเกิดเพลิงไหม้สถานการณ์โดยรอบยังคงโกลาหลและดูสิ้นหวัง มีกลิ่นร่างมนุษย์ไหม้อบอวลไปทั่วจนทุกคนต้องสวมหน้ากากเพื่อป้องกันกลิ่น กำลังตำรวจและทหารหลายร้อยนายต้องคอยควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ในความสงบในขณะที่ทีมชันสูตรศพขนร่างออกมาทางประตูหน้าแทบทุกนาที มีผู้รอดชีวิตออกมาบางส่วน พวกเขามากันเป็นกลุ่ม ต่างได้รับบาดเจ็บ และมีปืนจ่ออยู่เพื่อควบคุมตัว
รัฐบาลประกาศ 'ยกเครื่อง' เรือนจำ
ครอบครัวของผู้ต้องขังพากันมาที่เกิดเหตุหลังจากทราบข่าว ญาติบางคนรู้สึกโกรธจนเข้าปะทะกับตำรวจในขณะที่พวกเขาพยายามเข้าไปในอาคาร
นักดับเพลิงบอกว่าพวกเขาไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือผู้ต้องขังในเรือนจำได้เนื่องจากพวกเขาหาตัวผู้คุมที่ถือกุญแจอยู่ไม่พบ
ประธานาธิบดี พอร์ฟิลิโอ โลโบ สัญญาว่าจะดำเนินการสืบสวนหาความจริงด้วยความโปร่งใส เขายังได้สั่งพักงานเจ้าหน้าที่เรือนจำทั้งในระดับท้องถิ่นและในระดับประเทศขณะที่มีการสืบสวนด้วย
ผู้รอดชีวิตบางส่วนกล่าวกับผู้สืบสวนว่าต้นเพลิงมีสาเหตุมาจากผู้ต้องขังที่จุดไฟเผาเบาะนอน ด้านอธิบดีกรมโยธาธิการของฮอนดูรัส มิเกล รอดริโก ปาสเตอร์ บอกว่าเพลิงเกิดจากผู้ต้องขังสองคนทะเลาะกัน ขณะที่ทางการก็กำลังตรวจสอบว่ามีสาเหตุความเป็นไปได้จากไฟฟ้าลัดวงจรหรือไม่
แต่ไม่ว่าสาเหตุจะมาจากอะไรก็ตามทางรัฐบาลฮอนดูรัสก็บอกว่าระบบของเรือนจำจะต้องมีการ 'ยกเครือง' ใหม่หมด โดยก่อนหน้านี้ในปี 2004 ทางการฮอนดูรัสก็เคยสัญญาในแบบเดียวกันหลังเกิดเหตุการณ์เพลิงไหม้ที่เรือนจำในเมือง ซาน เปโดร ซูลา จนมีผู้ต้องขังเสียชีวิต 107 ราย
เผยผู้ต้องขังกว่าครึ่งเป็นแค่ผู้ต้องสงสัย
สำนักข่าว BBC เปิดเผยว่าฮอนดูรัสเป็นประเทศที่มีอัตราการเกิดคดีฆาตกรรมสูงสุด และเรือนจำในฮอนดูรัสที่ออกแบบมาเพื่อขังคน 8,000 คน ก็นำไปใช้ขังผู้ต้องหา 13,000 คน
หลายปีก่อนหน้านี้ทางการฮอนดูรัสก็ได้ออกกฏหมายที่เข้มงวดมากขึ้นในการต่อต้านแก็งค์อาชญากรรมตามท้องถนนที่ก่อความรุนแรงที่เรียกว่ามาราส แต่ก็มีคนวิจารณ์ว่ากฏหมายดังกล่าวทำให้คนถูกจับเข้าคุกได้เพียงแค่มีรอยสักแบบแก้งค์
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานอีกว่า ผู้ต้องขังมากกว่าครึ่งหนึ่งในเรือนจำโคมายากัวยังคงอยู่ในฐานะรอพิจารณาคดีหรือถูกกุมขังในฐานะผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็นสมาชิกแก็งค์ มีข้อมูลที่ได้จากรายงานภายในรัฐบ่าลฮอนดูรัสที่ส่งไปให้กับสหประชาชาติเปิดเผยว่า ที่เรือนจำโคมายากัวมีผู้ต้องขัง 800 ราย ทั้งที่เรือนจำสร้างไว้เพื่อจุแค่ 500 ราย มีผู้คุมอยู่แค่ 51 รายในตอนกลางวัน และ 12 รายในตอนกลางคืน
ที่มา Comayagua prison fire killed 355 - Honduras officials, BBC, 16-02-2012 http://www.bbc.co.uk/news/world-latin-america-17055231
Honduras prison fire: Families' grief and anger, BBC, 16-02-2012 http://www.bbc.co.uk/news/world-latin-america-17055103
สมัครรับข่าวความเคลื่อนไหวจากประชาไท ผ่านทางอีเมล ดูรายละเอียดที่ http://groups.google.com/group/prachatai-newspaper