Quantcast
Channel: ประชาไท
Viewing all articles
Browse latest Browse all 51020

เครือข่ายด้านสาธารณสุขระดมส่งแฟกซ์-อีเมลถล่มอียู "หยุดแย่งยาจากมือประชาชน"

$
0
0

ภาคประชาสังคมทั่วโลกประสานพลังกดดันสหภาพยุโรปให้หยุดบังคับอินเดียให้รับเอฟทีเอที่จะมีผลทำลายอุตสาหกรรมยาชื่อสามัญในการประชุมสุดยอด สุดสัปดาห์นี้ เครือข่ายในไทยใช้วิธีส่งแฟกซ์-อีเมลถล่ม และโฟโต้แอคชั่น

นายเฉลิมศักดิ์ กิตติตระกูล เจ้าหน้าที่ฝ่ายรณรงค์มูลนิธิเข้าถึงเอดส์ เปิดเผยว่า เนื่องในวันที่ 10 กุมภาพันธ์นี้จะเป็นการประชุมสุดยอดสหภาพยุโรป-อินเดียเพื่อสรุปข้อตกลงเอฟทีเอระหว่างกัน ซึ่งสหภาพยุโรปยังคงพยายามกดดันให้อินเดียต้องรับข้อตกลงที่เกินไปกว่าความตกลงด้านทรัพย์สินทางปัญญาขององค์การการค้าโลก หรือที่เรียกว่าทริปส์พลัส ซึ่งจะมีผลทำลายอุตสาหกรรมยาชื่อสามัญของอินเดียที่ประชาชนทั่วโลกพึ่งพาอยู่ ทางเครือข่ายด้านสาธารณสุขทั่วโลกจึงร่วมในกันจัดการรณรงค์พร้อมกันในสัปดาห์นี้

"อินเดียเป็นประเทศผู้ผลิตยาชื่อสามัญรายใหญ่ที่สุดในโลก ยาจำเป็นต่างๆ กว่าร้อยละ 80 ที่ใช้อยู่ในประเทศกำลังพัฒนามาจากอินเดีย โดยเฉพาะยาต้านไวร้สเอชไอวี ประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งที่จ่ายยาจำเป็นสำหรับรักษาโรคเอดส์ โรคหัวใจ และมะเร็งให้กับผู้ป่วยนับล้านรายภายในระบบหลักประกันสุขภาพของประเทศไทย โดยที่ยาเหล่านี้มาจากอินเดีย แต่สหภาพยุโรปกำลังทำทุกวิถีทางที่จะปิด “ร้านขายยา” ของประเทศกำลังพัฒนา และตัดสายป่านชีวิตของผู้คนนับล้านที่ต้องอาศัยยาจำเป็นจากประเทศอินเดีย"

สำหรับการรณรงค์ในไทย เครือข่ายประชาชนและองค์กรต่างๆ ที่ร่วมกันทำงานเพื่อการเข้าถึงการรักษา นำโดยเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ประเทศไทย จะใช้วิธีการส่งโทรสารและจดหมายอิเล็คทรอนิคไปยังสำนักงานคณะผู้แทนคณะกรรมาธิการยุโรปประจำประเทศไทย และเชิญชวนประชาชนร่วมถ่ายภาพที่มีข้อความ “สหภาพยุโรปหยุดแย่งยาจากพวกเราซะที/EU Hand off Our Medicines” “หยุดเอฟทีเอที่ทำลายยาชื่อสามัญ/Stop the FTA Attack Generic Medicines” เผยแพร่ผ่านทางโซเชียลมีเดีย http://www.facebook.com/EUinThailand เพื่อกระตุ้นสำนึกผู้เจรจาของสหภาพยุโรปให้คณะกรรมาธิการยุโรปเปลี่ยนท่าทีในการเจรจาและสัญญาว่าจะสนับสนุนการเข้าถึงยาจำเป็นสำหรับประชาชนทุกคน โดยจะเริ่มการรณรงค์นี้พร้อมกันในวันศุกร์นี้”


ภาพบางส่วนที่ถูกโพสต์ในเพจเฟซบุ๊กของคณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย

สำหรับเนื้อหาในข้อตกลงเอฟทีเอที่จะมีผลในการทำลายอุตสาหกรรมยาชื่อสามัญ อาทิ

· การขยายอายุสิทธิบัตร ที่ทำให้การคุ้มครองสิทธิบัตรยาวนานเกินกว่า 20 ปีตามที่กำหนดไว้ในข้อตกลงทริปส์ขององค์การการค้าโลก

· การผูกขาดข้อมูลทางยา ซึ่งเป็นการจำกัดสิทธิหรือทำให้นำยาชื่อสามัญมาขึ้นทะเบียนยาไม่ได้หรือได้อย่างยากลำบาก

· การบังคับใช้กฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา ที่บังคับให้รัฐบาลและระบบศาลของอินเดียต้องตัดสินคดีที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินทางปัญญาโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของเจ้าของสิทธิบัตรเป็นสำคัญ มากกว่าเรื่องสาธารณสุขของประชาชน และบั่นทอนการแข่งขันของยาชื่อสามัญ

· มาตรการชายแดน ที่จะทำให้การส่งออกยาจากอินเดียไปยังประเทศกำลังพัฒนามีความยากลำบากหรือไม่อาจจะส่งออกไปได้เลย


/////////////////////////

 

 

ถึง เอกอัครราชทูตและหัวหน้าคณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย และหัวหน้าแผนกการค้าและเศรษฐกิจ คณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย

 

ชีวิตคนนับล้านในประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งรวมถึงประเทศไทย อยู่ได้เพราะยาชื่อสามัญที่ราคาไม่แพงและเป็นธรรม แต่ชีวิตของพวกเขากำลังถูกคุกคามอย่างหนัก เพราะการเจรจาข้อตกลงเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ที่ดำเนินอยู่ระหว่างสหภาพยุโรปและอินเดีย

อินเดียเป็นประเทศผู้ผลิตยาชื่อสามัญรายใหญ่ที่สุดในโลก ยาจำเป็นต่างๆ กว่าร้อยละ 80 ที่ใช้อยู่ในประเทศกำลังพัฒนามาจากอินเดีย โดยเฉพาะยาต้านไวร้สเอชไอวี ประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งที่จ่ายยาจำเป็นสำหรับรักษาโรคเอดส์ โรคหัวใจ และมะเร็งให้กับผู้ป่วยนับล้านรายภายในระบบหลักประกันสุขภาพของประเทศไทย โดยที่ยาเหล่านี้มาจากอินเดีย

คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) กำลังผลักดันอย่างหนักให้มีข้อตกลงการค้าที่มีข้อผูกมัดด้านทรัพย์สินทางปัญญาที่เข้มงวดเกินกว่าข้อตกลงด้านทรัพย์สินทางปัญญาขององค์การการค้าโลก (หรือข้อตกลงทริปส์) ข้อตกลงนี้จะสกัดกั้นการเข้าถึงยาที่จำเป็นของประชาชนในประเทศกำลังพัฒนา คณะกรรมาธิการยุโรปกำลังจะปิด “ร้านขายยา” ของประเทศกำลังพัฒนา และตัดสายป่านชีวิตของผู้คนนับล้านที่ต้องอาศัยยาจำเป็นในราคาที่เป็นธรรมจากประเทศอินเดีย

ข้าพเจ้าขอเรียกร้องให้คณะกรรมาธิการยุโรปเพิกถอนมาตรการต่างๆ ต่อไปนี้ออกจากข้อตกลงที่จะทำกับรัฐบาลอินเดีย:

· การขยายอายุสิทธิบัตร ที่ทำให้การคุ้มครองสิทธิบัตรยาวนานเกินกว่า 20 ปีตามที่กำหนดไว้ในข้อตกลงทริปส์ขององค์การการค้าโลก

· การผูกขาดข้อมูลทางยา ซึ่งเป็นการจำกัดสิทธิ์หรือทำให้นำยาชื่อสามัญมาขึ้นทะเบียนยาไม่ได้หรือได้อย่างยากลำบาก

· การบังคับใช้กฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา ที่บังคับให้รัฐบาลและระบบศาลของอินเดียต้องตัดสินคดีที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินทางปัญญาโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของเจ้าของสิทธิบัตรเป็นสำคัญ มากกว่าเรื่องสาธารณสุขของประชาชน และบั่นทอนการแข่งขันของยาชื่อสามัญ

· มาตรการชายแดน ที่จะทำให้การส่งออกยาจากอินเดียไปยังประเทศกำลังพัฒนามีความยากลำบากหรือไม่อาจจะส่งออกไปได้เลย


ข้าพเจ้าเรียกร้องเพื่อประชาชนในประเทศกำลังพัฒนาที่จำเป็นต้องพึ่งพายาจำเป็นในราคาที่เป็นธรรม ขอให้คณะกรรมาธิการยุโรปเปลี่ยนท่าทีในการเจรจาและสัญญาว่าจะสนับสนุนการเข้าถึงยาจำเป็นสำหรับประชาชนทุกคน

 

สมัครรับข่าวความเคลื่อนไหวจากประชาไท ผ่านทางอีเมล ดูรายละเอียดที่ http://groups.google.com/group/prachatai-newspaper

Viewing all articles
Browse latest Browse all 51020

Trending Articles



<script src="https://jsc.adskeeper.com/r/s/rssing.com.1596347.js" async> </script>