ชาวชุมชนบ่อแก้ว ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 1 บริการขั้นพื้นฐานของรัฐ เป็นสิทธิที่มนุษย์ทุกคนต้องได้รับ เรียกร้องขอใช้ไฟฟ้าในชุมชน พร้อมยืนยันให้ยกเลิกสวนป่าคอนสารทั้ง 4,401 ไร่

วันนี้ (12 ก.พ.56) ชาวชุมชนบ่อแก้ว ต.ทุ่งพระ อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 1 บริการขั้นพื้นฐานของรัฐ เป็นสิทธิที่มนุษย์ทุกคนต้องได้รับ หลังจากได้ร่วมชุมนุมเรียกร้องขอใช้ไฟฟ้าในชุมชน ซึ่งอยู่ในพื้นที่ขัดแย้งกรณีสวนป่าคอนสาร กับองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) อยู่ที่บริเวณหน้าที่ทำการอำเภอคอนสารมาตั้งแต่วันที่ 11 ก.พ.ที่ผ่านมา
สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 3 ก.พ.56 เจ้าหน้าที่ อ.อ.ป.จำนวน 5 คน ได้เข้าไปในชุมชนบ่อแก้ว และสั่งให้ชาวบ้านทำการรื้อถอนไฟฟ้าออกไปให้หมด พร้อมทั้งข่มขู่ให้ชาวบ้านออกจากพื้นที่ไปทันที โดยอ้างว่าพื้นที่นี้เป็นของเขตสวนป่าคอนสาร ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าภูซำผักหนาม และชาวบ้านต่างก็ถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ แต่ชาวบ้านไม่ยอม พยายามชี้แจงถึงสิทธิที่จะอยู่ทำมาหากินในพื้นที่ทำกินเดิม เพราะ อ.อ.ป.ได้เข้ามายึดพื้นที่ไปลูกป่ายูคาฯ นับตั้งแต่ปี 2521 เป็นต้นมา ทำให้พวกเขาต้องกลายเป็นคนไร้ที่อยู่ทำกินมากกว่า 30 ปี
ต่อมาเมื่อวันที่ 4 ก.พ.56 เจ้าหน้าที่ อ.อ.ป.จึงได้ทำหนังสือไปถึงผู้จัดการการไฟฟ้าสาขาย่อยคอนสาร และขอให้การไฟฟ้าทำการยกเลิกและรื้อถอนระบบไฟฟ้าในชุมชนบ่อแก้ว รวมทั้งยังได้มีการไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจภูธรคอนสาร เมื่อวันที่ 5 ก.พ.56 เพื่อกดดันชาวบ้าน
แถลงการณ์ดังกล่าวระบุรายละเอียดดังนี้
แถลงการณ์ชุมชนบ่อแก้ว ฉบับที่ 1 บริการขั้นพื้นฐานของรัฐ เป็นสิทธิที่มนุษย์ทุกคนต้องได้รับ นับเป็นเวลากว่า 35 ปี ที่พวกเราชาวชุมชนบ่อแก้วและผู้เดือดร้อนกรณีสวนป่าคอนสารทับที่ดินทำกิน ต้องประสบชะตากรรมจากการกระทำอันเป็นการละเมิดสิทธิ์ของ “องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้” พวกเขาเหล่านั้นได้ “ขับไล่” พวกเราออกจากที่ดินพวกเรา ใครไม่ออกถูกจับกุมดำเนินคดี ข่มขู่ คุกคามสารพัดชนิด “นั่นคือภาพเหตุการณ์เมื่อ 35 ปี ที่ผ่านมา” วันนี้ พวกเราชาวชุมชนบ่อแก้วได้ปักหลักทำกินในพื้นที่ดินเดิมเพียงบางส่วนจากจำนวนทั้งหมด 4,401 ไร่ ตลอดระยะเวลากว่า 4 ปีที่พวกเราเข้าไปในที่ดินเดิม เหตุการณ์ในอดีตได้หวนกลับคืนมาอีกครั้ง นับตั้งแต่วันแรก กระทั่งปัจจุบัน ล่าสุด พวกเราได้ขอใช้ไฟฟ้าเพื่อการเกษตร ซึ่งการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขาย่อยอำเภอคอนสารได้อนุมัติและดำเนินการติดตั้งแล้ว ต่อมา อ.อ.ป.ได้ร้องเรียนให้ถอนมิเตอร์และแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานตำรวจ การกระทำดังกล่าวข้างต้น ถือเป็นพฤติกรรมที่ไร้มนุษยธรรมอย่างยิ่ง มนุษย์ทุกคนย่อมมีสิทธิ์เข้าถึงบริการด้านสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานของรัฐ โดยไม่จำแนกว่าเขาเหล่านั้นจะนับถือศาสนาใด มีทรัพย์สินเงินทองมากน้อยแค่ไหน และอยู่ในพื้นที่ประเภทใด นี่คือหลักสากลด้านสิทธิมนุษยชนที่สังคมอารยะให้การรับรอง แต่ทำไมชุมชนบ่อแก้วถึงได้รับการปฏิบัติที่ตรงกันข้าม ในขณะที่อีกฟากฝั่งหนึ่งของพื้นที่พิพาทสวนป่าคอนสารกลับมีถาวรวัตถุ น้ำประปา ไฟฟ้า ถนนคอนกรีต และเครื่องอำนวยความสะดวกสารพัด เรามีคำถามสำคัญคือ 1.) คุณเอามาตรฐานอะไรมาปฏิบัติใช้กับกลุ่มคน 2 จำพวกนี้ 2.) คุณอ้างกฎหมายได้แต่กับคนยากคนจนกระนั้นหรือ กับคนบางจำพวก คุณบอกว่ามีอำนาจพิเศษ 3.) ใครบุกรุกใครกันแน่ ระหว่างชาวบ้านกับ อ.อ.ป. หากชาวบ้านบุกรุกจริง ตอบมาซิว่า ปี พ.ศ. 2521 คุณได้ขับไล่เขาออกจากพื้นที่หรือไม่ บ้านสวนป่าหมู่ที่ 8 เกิดขึ้นได้อย่างไร 4.) กลุ่มคนบางจำพวก คุณบอกว่าชุมชนให้การรับรอง ถึงใช้ไฟฟ้าได้ แต่กรณีปัญหาสวนป่าคอนสาร คณะทำงานระดับพื้นที่ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ประชาคมตำบลทุ่งพระ มีมติว่า “สวนป่าคอนสารได้ปลูกสร้างทับที่ดินทำกิน และที่อยู่อาศัยของราษฎรจริง ให้ยกเลิกสวนป่าคอนสาร แล้วนำที่ดินมาจัดสรรให้กับราษฎรผู้เดือดร้อน” ทำไมคุณไม่ทำตามมติ คุณปล่อยให้เวลาเนิ่นนานมาตั้ง 8 ปีได้อย่างไร วันนี้ เราถึงต้องมาชุมนุมที่หน้าที่ว่าการอำเภอคอนสาร เพื่อที่จะบอกว่า 1.) เรามีสิทธิได้รับการบริการขั้นพื้นฐานจากรัฐทุกชนิด เช่นเดียวกับมนุษย์ทุกคน 2.) เรายืนยันให้ยกเลิกสวนป่าคอนสารทั้ง 4,401 ไร่ โดยเด็ดขาด ตามมติที่กล่าวแล้วข้างต้น 3.) เราสูญเสียโอกาสทางเศรษฐกิจ จากการขับไล่พวกเราออกจากที่ดินทำกินมากว่า 35 ปี องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ต้องชดใช้ให้กับพวกเรา ถึงเวลาแล้ว ที่พี่น้องชาวคอนสาร และผู้รักความเป็นธรรมทุกท่าน จะมาร่วมกันขับไล่โจรปล้นแผ่นดินของพวกเราออกจากพื้นที่คอนสารร่วมกัน ด้วยความคารวะ ชุมชนบ่อแก้ว |
ติดตามความเคลื่อนไหวของ ประชาไท ทางอีเมล คลิกอ่าน http://goo.gl/8xIcV หรือเฟซบุ๊ค http://fb.me/Prachatai