อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญนิรโทษกรรมของนิติราษฎร์ ถามทำไมปล่อยให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม หากผูกเรื่องแรงจูงใจทางการเมืองเข้าสู่การนิรโทษกรรมสุดท้ายก็ต้องพ่วงเรื่อง "ทักษิณ" เข้าไปด้วย พร้อมแนะรัฐบาลยุติการแก้ รธน. ถอนร่างกฎหมายปรองดองเพื่อนำมาหารือกับทุกฝ่าย
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และสมาชิกรัฐสภาระหว่างการประชุมสภา (ที่มา: เฟซบุคอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ/แฟ้มภาพ)
หลังจากที่เมื่อวันที่ 6 ม.ค. ที่ผ่านมา คณะนิติราษฎร์มีการเผยแพร่ร่างรัฐธรรมนูญว่าด้วยนิรโทษกรรมและขจัดความขัดแย้ง และต่อมามีการอธิบายข้อเสนอดังกล่าว นำโดยวรเจตน์ ภาคีรัตน์ ปิยบุตร แสงกนกกุล และจันทจิรา เอี่ยมมยุรา เมื่อวันที่ 13 ม.ค. นั้น [1]และ [2]
ล่าสุดนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ในรายการฟ้าวันใหม่ ทาง Blue Sky Channelระบุถึงข้อเสนอให้จัดทำร่างรัฐธรรมนูญของนิติราษฎร์ว่า เป็นการปฏิเสธกระบวนการที่มีอยู่ในปัจจุบัน อีกทั้งพยายามที่จะหาเงื่อนไขหรือหาข้อยกเว้น ซึ่งตนคิดว่า ทุกอย่างต้องมีขอบเขตเช่น การนิรโทษกรรม หากเป็นความผิดทางการเมืองโดยแท้ก็คงไม่มีปัญหา แต่ถึงขั้นฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ มีการยุยงให้ใช้ความรุนแรง ตนคิดว่าคงไม่ใช่
และคำถามคือเหตุใดจึงไม่ปล่อยให้กระบวนการเหล่านี้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมก่อนเช่น กรณีการเผาศาลากลาง ที่ทางศาลมีการเขียนในคำพิพากษาว่า เมื่อมีมูลเหตุ มีความขัดแย้งทางการเมือง ท่านก็ลดโทษให้ นี่ก็คือการที่กระบวนการยุติธรรมรองรับตรงนี้อยู่แล้ว ฉะนั้นความพยายามตรงนี้ก็ไม่มีอะไรนอกจากว่า พรรคพวกตัวเองทำอะไรก็บอกว่าจะไม่ผิด เป็นเรื่องเหตุจูงใจทางการเมือง และสุดท้ายในไม่ช้าก็ต้องพ่วงเรื่อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเข้าไปด้วย
นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวถึงการให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐว่า หาก พ.ต.ท.ยอมรับความผิดและยอมรับกระบวนการยุติธรรมของไทยและกลับประเทศ ประเทศไทยจะมีวิธีการให้อภัย พ.ต.ท.ทักษิณว่า ตนเชื่อว่า ปัญหาความขัดแย้งขณะนี้ ผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่รัฐบาลพยายามจะทำคือ การเอาตัวบุคคลมาอยู่เหนือกฎหมาย แต่หากมีคนยอมรับกฎหมาย ทุกอย่างจะคลายลง และกระบวนการต่างๆ มีทั้งสิ้นเช่น การขอพระราชทานอภัยโทษ แต่หากคุณพยายามจะบอกว่าศาลตัดสินแล้ว ผมไม่ผิดนั้นเป็นไปไม่ได้
ส่วนพยายามของรัฐบาลในการหาทางออกเรื่องแก้รัฐธรรมนูญนั้น นายอภิสิทธิ์เสนอว่า ความจริงตนเสนอไปแล้วคือ ควรยุติการแก้ไขรัฐธรรมนูญเช่นเดียวกับการถอนกฏหมายปรองดอง และมาหารือว่าตรงไหนที่ทุกฝ่ายเห็นตรงกัน