เปิดสถิติเด็กชายแดนใต้ เหยื่อของความรุนแรง 9 ปี เจ็บ 345 ราย ตาย 52 ราย กำพร้ากว่า 5 พัน เวที Children voice for peace ร่วมผลักดันพื้นที่ปลอดภัยแก่เด็กและเยาวชน ขอตัวเลขเหยื่อเด็กเป็นศูนย์
เต้นกังนัม –เด็กๆในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมกิจกรรมในงานวันเด็กแห่งชาติอย่างสนุกสนานอย่างในภาพเป็นงานวันเด็กหน้าสำนักงานเคเบิ้ลทีวีปัตตานี หน้าโรงแรมซีเอส.ปัตตานี จัดโดยกลุ่มสื่อมวลชนในพื้นที่
บรรยากาศกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติหลายแห่งใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นไปอย่างคึกคัก มีเด็กๆ ที่ผู้ปกครองพามาร่วมงานจำนวนมากเช่นเดียวกับทุกแห่งในประเทศไทย แต่ที่นี่เป็นเพียงหนึ่งในไม่กี่วันที่เด็กในพื้นที่มีความสุขสนุกสนานมากกขนาดนี้ อย่างน้อยแต่ละคนก็มีของขวัญติดมือกลับบ้านไปด้วย
วันเด็กแห่งชาติปี 2556 นี้ ตรงกับวันที่ 12 มกราคม เฉพาะในจังหวัดปัตตานีอย่างเดียวน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 50 แห่งที่มีการจัดกิจกรรมวันเด็ก ส่วนคำขวัญวันเด็กประจำปีนี้ที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีมอบไว้คือ “รักษาวินัย ใฝ่เรียนรู้ เพิ่มพูนปัญญา นำพาไทยสู่อาเซียน”
หลายครั้งที่มีข่าวเกี่ยวเหตุรุนแรงในพื้นที่ที่ส่งผลให้มีเด็กตกเป็นเหยื่อ แม้ในวันเด็กปีนี้ยังไม่มีข่าวเช่นนั้น แต่ก็มีเหตุที่เกี่ยวเนื่องกับวันเด็กแห่งชาติอยู่ด้วย ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าวันที่ 11 มกราคม 2556 เมื่อคนร้ายลอบวางระเบิดรถยนต์เจ้าหน้าที่ทหารราบที่ 8033 หน่วยเฉพาะกิจปัตตานีที่ 21 ขณะเดินทางไปร่วมงานวันเด็กและงานผู้นำท้องถิ่น ที่องค์การบริหารส่วนตำบลสะดาวา(อบต.) อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เป็นเหตุให้มีทหารเสียชีวิต 2 นาย เหตุเกิดที่บ้านบือแนปีแน หมู่ที่ 4 ต.ประจัน อ.ยะรัง จ.ปัตตานี
สถิติเด็กเหยื่อของความรุนแรง
ขณะที่ศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ได้รายงานสถิติเหตุรุนแรงต่อแด็กว่า เหตุไม่สงบที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2547 – 2555 หรือในช่วง 9 ปีของเหตุการณ์ไม่สงบ มีเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ตกเป็นเหยื่อ 397 ราย โดยบาดเจ็บ 345 ราย และเสียชีวิต 52 ราย โดยปี 2550 มียอดสูงที่สุดของทั้งสองกรณี คือ บาดเจ็บ 56 ราย และเสียชีวิต 23 ราย
ส่วนสถิติเหตุรุนแรงที่เกิดต่อเด็กเฉพาะปี 2555 ถึงเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2555 พบว่ามีเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี ได้รับบาดเจ็บ 48 รายและเสียชีวิต 5 ราย โดยในปี 2555 มีเหตุสังหารเด็กใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ถึง 5 ราย ดังนี้
- วันที่ 19 เมษายน 2555 มีเหตุยิงนายอิสมาแอ แปเตาะ อายุ 17 ปี เสียชีวิตที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา
- วันที่ 31 ตุลาคม 2555 เหตุยิงนายดอรอแม สาอุ เหตุเกิดบนถนนสายชนบท ท้องที่บ้านบูเกะบือราแง หมู่ 3 ต.อาซ่อง อ.รามัน จ.ยะลา เสียชีวิตพร้อมลูกชาย ชื่อ ด.ช.อัคมาล สะอุ อายุ 11 ปี
- วันที่ 3 พฤศจิกายน 2555 เหตุระเบิด 2 จุดในเขตเทศบาลตำบลรือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย หนึ่งในนั้นคือ ด.ญ.ศศิกานต์ สูเริง อายุ 3 ปี
- วันที่ 18 พฤศจิกายน 2555 เกิดเหตุคนร้ายวางระเบิดถล่มขบวนรถไฟสายนครศรีธรรมราช-สุไหงโก-ลก บริเวณบ้านสโลว์ หมู้ที่ 9 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส มีผู้เสียชีวิตรวม 3 ราย บาดเจ็บ 17 คน ในจำนวนนี้ เป็นเด็ก 3คน ได้ ด.ช.มะเพาซัน ดาโอ๊ะ ด.ช.มะเพาซี ดาโอ๊ะ และด.ช.อัสรอน หะยีอาแซ
- วันที่ 11 ธันวาคม 2555 เกิดเหตุคนร้ายกราดยิงร้านน้ำชา เลขที่ 60/2 บ้านดามาบูเวาะ หมู่ 1 ต.ตันหยงลิมอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ทำให้เด็กหญิงอินฟานี สาเมาะ อายุเพียง 11 เดือนเสียชีวิต นับเป็นเด็กที่เสียชีวิตที่อายุน้อยที่สุด
ขณะที่น.ส.เพชรดาว โต๊ะมีนา ผู้อำนวยการศูนย์สุขภาพจิตที่ 16 เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า มีเด็กกำพร้าจากสถานการณ์ความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ลงทะเบียนไว้กับกระทรวงสาธารณสุขประมาณ 5,000 คน โดยทางกระทรวงได้เข้าไปช่วยเหลือดูทางด้านจิตใจ ส่วนกระทรวงศึกษาธิการช่วยเหลือด้านการเงินและทุนการศึกษา ซึ่งน่าจะมีอีกหลายร้อยคนยังไม่ได้ลงทะเบียนและยังไม่ได้รับการช่วยเหลือทางด้านการเงินและจิตใจ
ขอพื้นที่ปลอดภัยให้เด็กชายแดนใต้
ด้วยเหตุดังกล่าว หลายองค์กรจึงพยายามรณรงค์ในเรื่องการคุ้มครองสิทธิเด็ก ในฐานะที่เด็กไม่ใช่คู่ขัดแย้งของใคร โดยเฉพาะการอาศัยกระแสในช่วงเทศกาลวันเด็กแห่งชาติ โดยเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2556 ที่ผ่านมา กลุ่มด้วยใจพร้อมด้วยสมาคมสตรีจังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อสันติภาพ (Deep Peace) สำนักพิมพ์โพรงกระต่าย มูลนิธิผสานวัฒนธรรม (CRCF)เครือข่ายส่งเสริมสิทธิและเข้าถึงความยุติธรรม (HAP) จัดโครงการChildren voice for peace ขึ้นมา ที่ TK PARK อ.เมือง จ.ยะลา มีผู้เข้าร่วมกว่า 300 คน โดยมีนางสาวอัญชนา หีมมิหน๊ะ หัวหน้ากลุ่มด้วยใจ เป็นผู้ประสานงานหลักในกิจกรรมครั้งนี้
ในงานแบ่งออกเป็น 2 กิจกรรม ได้แก่ กิจกรรมกลางแจ้งซึ่งเป็นกิจกรรมสำหรับเด็กและเยาวชน และกิจกรรมในร่ม โดยเป็นการเสวนาในหัวข้อ“การปัญหาการป้องกันเด็กจากความรุนแรงและแนวทางการป้องกันเด็กในอนาคต”
หลังการเสวนามีการกำหนดประเด็นในการขับเคลื่อนต่อไป ได้แก่
1.ผลักดันให้มีพื้นที่ที่ปลอดภัยแก่เด็กและเยาวชนในการเรียนรู้วิธีการอยู่ร่วมกันอย่างสันติท่ามกลางสถานการณ์ความรุนแรง
2.มีมาตรการพิเศษในการปกป้องความปลอดภัยของเด็กและเยาวชน โดยเฉพาะ ในที่สาธารณะ เช่น โรงเรียน เขตชุมชนเป็นต้น
3.มีมาตรการพิเศษในการปกป้องคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิของเด็กและเยาวชน ตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก (Convention on the Right of the Child; CRC) ที่รัฐไทยได้ให้สัตยาบันเข้าร่วมเป็นภาคี โดยให้ความสำคัญกับสิทธิที่จะได้รับการดูแลสันติภาพ สุขภาพขั้นพื้นฐาน สิทธิที่จะได้รับการพัฒนา สิทธิที่จะได้รับการคุ้มครองจากการทำร้าย ล่วงละเมิด และสิทธิในการมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นอย่างมีผู้รับฟัง
“ขอให้ตัวเลขเหยื่อเด็กเป็นศูนย์”
นอกจากนี้ ยังได้ร่วมกำหนดพันธะกิจ “ขอให้ตัวเลขเด็กเสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นศูนย์ในปี 2556” (ZERO CHILDREN VICTIM) ดังต่อไปนี้
1.จัดตั้งศูนย์รายงานเหตุการณ์ที่มีผลกระทบต่อเด็กจากสถานการณ์เหตุการณ์ความไม่สงบและรายงานไปยังทุกองค์กรร่วม
2.ดำเนินการสื่อสารทั้งทางตรงและทางอ้อมไปยังผู้ใช้ความรุนแรง หากไม่สามารถระบุได้ในเบื้องต้นก็ควรดำเนินการสื่อสารแบบไม่เจาะจง
3.ดำเนินการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ต่อสาธารณะถึงการปฏิเสธการกระทำที่ส่งผลกระทบต่อเด็กทั้งในรูปแบบองค์กร หรือร่วมเครือข่าย
สำหรับกิจกรรมต่อไปคือการขับเคลื่อนเชิงป้องกัน โดยนางสาวอัญชนา หวังว่า รัฐต้องยอมรับในหลักการที่เสนอจากภาคประชาสังคม และต้องปรับเชิงนโยบายและการปฏิบัติเพื่อเป็นพันธสัญญาว่า ภาคประชาสังคมและภาครัฐจะเดินร่วมกันในเรื่องนี้อย่างไร เป็นการสร้างเจตจำนงร่วม แล้วขยับต่อและหาแนวทางเพื่อการปฏิบัติอย่างเป็นระบบ
ติดตามความเคลื่อนไหวของ ประชาไท ทางอีเมล คลิกอ่าน http://goo.gl/8xIcV หรือเฟซบุ๊ค http://fb.me/Prachatai