องค์กรด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติเผยตัวเลขผู้เสียชีวิตในซีเรียว่ามีจำนวนราว 60,000 ราย นับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตั้งแต่เดือน มี.ค. 2011 และทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายต่อต้านมีส่วนรับผิดชอบต่อการสังหาร และอาจเข้าข่ายอาชญากรรมสงคราม และอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ
เมื่อวันที่ 2 ม.ค. 2013 ข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งองค์การสหประชาชาติ (UN High Commissioner for Human Rights) เปิดเผยตัวเลขผู้เสียชีวิตจากเหตุขัดแย้งในซีเรียพุ่งสูงถึงราว 60,000 คนแล้ว นับตั้งแต่การประท้วงต่อต้านประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด เมื่อเดือน มี.ค. 2011
นาวี พิลเลย์ จากองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนของยูเอ็นกล่าวว่า จากการวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญด้านข้อมูล มีผู้เสียชีวิตในซีเรียจำนวน 59,648 ราย นับตั้งแต่เดือน มี.ค. 2011 มาจนถึงเดือน พ.ย. 2012 ซึ่งเป็นจำนวนที่มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ และถือเป็นเรื่องที่น่าตกใจมาก
ในรายละเอียดของการวิเคราะห์ระบุว่าเมืองที่มีผู้เสียชีวิตจากเหตุความขัดแย้งมากที่สุดคือฮอม (12,560 ราย) ตามมาด้วยดามาสกัส (10,852 ราย) อิดลิบ (7,686 ราย) อเลปโป (6,188 ราย) ดะรา (6,034 ราย) และฮามา (5,080 ราย)
แผนที่ซีเรียจาก www.cia.gov
รูเพิร์ท โคลวิลล์ โฆษกของพิลเลย์กล่าวว่ามีความเป็นไปได้ที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตจะมีจำนวนมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากวิธีการตรวจสอบของพวกเขาค่อนข้างรัดกุม และเป็นไปได้ว่าจะมีผู้เสียชีวิตที่ตกสำรวจ จำนวนตัวเลข 60,000 ราย จึงควรเป็นแค่จำนวนชี้วัด และอาจถือเป็นจำนวนผู้เสียชีวิตขั้นต่ำ
ทางด้านนาวี พิลเลย์ กล่าวว่าสภาพความขัดแย้งในซีเรียทำให้การตรวจสอบผู้เสียชีวิตทั้งหมดยากมาก พวกเขาไม่ได้อนุญาตให้เข้าไปตั้งแต่เดือน มี.ค. 2011 ซึ่งเป็นช่วงที่เริ่มเกิดความวุ่นวาย และถ้าหากเกิดสันติภาพในซีเรียแล้ว จะมีการตรวจสอบจำนวนผู้เสียชีวิตอย่างละเอียดต่อไป รวมถึงตรวจสอบถึงสาเหตุว่าใครเป็นผู้ต้องรับผิดชอบต่อความตายของพวกเขาด้วย
นาวี พิลเลย์ กล่าวอีกว่าซีเรียอาจหลีกเลี่ยงการสูญเสียจำนวนมากเช่นนี้ได้หากรัฐบาลซีเรียเลือกหนทางอื่นแทนการใช้กำลังปราบปรามอย่างโหดเหี้ยมกับผู้ชุมนุมประท้วงอย่างสงบและเป็นไปตามหลักกฏหมาย แต่ขณะเดียวกันพิลเลย์ก็บอกว่าฝ่ายกบฏต่อต้านรัฐบาลก็อาจจะมีส่วนรับผิดชอบต่อการสูญเสียนี้ด้วย
"จากที่สถานการณ์เลวร้ายลงเรื่อยๆ จำนวนผู้เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นอาจมาจากการถูกสังหารจากกลุ่มกบฏติดอาวุธต่อต้านรัฐบาลด้วย มีการก่ออาชญากรรมร้ายแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากทั้งสองฝ่าย เช่นอาชญากรรมสงคราม (war crimes) และอาจรวมถึงการอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ (crimes against humanity) ด้วย" นาวี พิลเลย์กล่าว
นอกจากนี้พิลเลย์ยังได้กล่าววิพากษ์วิจารณ์ประชาคมโลกที่ไม่สามารถยับยั้งวิกฤตของซีเรียไว้ได้
เรียบเรียงจาก
UN says Syria death toll has passed 60,000, Aljazeera, 02-01-2013