Quantcast
Channel: ประชาไท
Viewing all articles
Browse latest Browse all 51020

นาซ่า บอกไม่พบหลักฐานใดๆ ว่าโลกจะแตกในปี 2012

$
0
0

ดอน ยิโอแมน นักดาราศาสตร์จากนาซ่ากล่าวโต้หลายๆ ความเชื่อเรื่องโลกาวินาศในปี 2012 ทั้งความเชื่อเรื่องการสิ้นสุดของปฏิทินมายา เรื่องดาวเคราะห์ปริศนาพุ่งชนโลก เรื่องการเรียงตัวของดาวเคราะห์ เรื่องวินาศภัยจากพายุสุริยะ และเรื่องการพลิกของแกนโลก บอกว่าไม่พบหลักฐานในปรากฏการณ์เหล่านี้ และในบางปรากฏการณ์ต่อให้เกิดขึ้นจริงก็ไม่ได้ส่งผลเสียหายรุนแรง 

12 ธ.ค. 2011 - แม้จะมีการลือกันเรื่องโลกาวินาศในวัน 21 ธ.ค. 2012 แต่ทางองค์การนาซาก็บอกว่าเรื่องโลกาวินาศนั้นไม่ใช่เรื่องจริง และวันดังกล่าวมีความสำคัญเป็นเพียงแค่วันเหมายัน หรือวันที่มีกลางคืนยาวนานที่สุดของปีหน้าเท่านั้น
 
นักดาราศาสตร์ ดอน ยิโอแมน ผู้ดำเนินงานโครงการวัตถุอวกาศใกล้โลก (Near-Earth Object) ของนาซ่ากล่าวถึงข่าวลือเรื่องโลกาวินาศว่า สิ่งที่พิเศษในวันที่ 21 ธ.ค. 2012 คือมันเป็นวันที่คนจำนวนมากคิดว่าเป็นจุดสิ้นสุดของปฏิทินมายา
 
 
ปฏิทินมายา
 
ปฏิทินของชาวเผ่ามายาเหมือนกับปฏิทินเกรกอเรียนสมัยใหม่คือระบุให้ปีหนึ่งมี 365 วัน นอกจากการนับเวลาเป็นปีแล้ว ชาวเผ่ามายายังได้วัดเวลาในช่วงระยะยาวไว้ด้วย โดยมีปฏิทินที่นับแบบสั้นและนับแบบยาว เช่นเดียวกับที่พวกเรานับเวลาเป็น ทศวรรษ, ศตวรรษ และ สหัสวรรษ
 
"การนับแบบสั้นคือ 52 ปี เมื่อเทียบกับปีของพวกเรา และการนับแบบระยะยาวคือ 5,125 ปี ซึ่งปฏิทินที่นับแบบระยะยาวนี้มีจุดสิ้นสุดอยู่ที่วันที่ 21 ธ.ค." ยิโอแมนกล่าว "แน่นอนว่าปฏิทินใหม่จะต้องเริ่มต่อวันที่ 22 ธ.ค. แบบนี้มันเหมือนกับว่าหากปฏิทินเราจบที่วันที่ 31 ธ.ค. แล้วนั่นก็เป็นจุดจบของเวลา จุดจบของโลก โดยไม่ได้คำนึงว่าจะมีวงจรใหม่เริ่มต้นขึ้น ชาวมายาไม่เคยทำนายว่าจุดจบของโลกจะสิ้นสุดที่เวลานั้น"
 
แม้ว่าจะมีบางคนที่เชื่อว่าวันที่ 21 ธ.ค. อาจจะนำมาซึ่งยุคสมัยของการตื่นรู้ครั้งใหม่ แต่ก็มีคนอีกเป็นจำนวนมากที่หวาดกลัวอวสานโลก "ผมใช้กูเกิ้ลค้นคำว่า '2012 disasters' (ภัยพิบัติ 2012) แล้วรู้ไหมว่ามีจำนวนการแสดงผลเท่าไหร่ ...35 ล้าน มีผู้คนจำนวนมากกังวลเกี่ยวกับวันที่ 21 ธ.ค. 2012"
 
 
หายนะจากดาวเคราะห์ X
 
ยิโอแมนกล่าวว่า สิ่งที่เป็นข้อกังวลอย่างหนึ่งได้ถูกขจัดไปแล้ว คือกรณีของดวงอาทิตย์ ที่ว่าหากมองจากมุมมองของโลกแล้ว จะพบดวงอาทิตย์ขวางหน้าดาวเคราะห์ดวงอื่นในกาแล็กซี่ของพวกเราในวันที่ 21 ธ.ค. อย่างไรก็ตามดวงอาทิตย์ได้ทำเช่นนี้อยู่แล้ว 2 ครั้งต่อปี โดยไม่ได้สร้างความเอิกเกริกใดๆ
 
ความกลัวอีกอย่างหนึ่งคือสิ่งที่เรียกว่า "นิบิรุ" หรือ "ดาวเคราะห์ X" ที่ว่าจะพุ่งเข้ามาชนโลก
 
ยิโอแมนระบุว่า มีผู้คลั่งไคล้ยูเอฟโอชื่อ แนนซี่ ลีเดอ เป็นคนที่เคยบอกว่าสามารถติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวจากหมู่ดาวเซตา เรติคิวรี (Zeta Reticuli) ได้ เธอเคยบอกว่านิบิรุจะสร้างหายนะครั้งใหญ่ในเดือน พ.ค. 2003 มาก่อน ก่อนที่ต่อมาถึงได้เปลี่ยนคำทำนายเป็นวันที่ 21 ธ.ค. 2012
 
"ไม่มีหลักฐานใดๆ เลยที่บ่งบอกว่านิบิรุมีอยู่จริง" ยิโอแมนกล่าว และจากแนวคิดที่ว่ามันอาจจะซ่อนอยู่หลังดวงอาทิตย์ยิโอแมนก็ปฏิเสธว่า "มันไม่สามารถซ่อนอยู่หลังดวงอาทิตย์ได้ตลอดไป และหากเช่นนั้นพวกเราควรจะได้เห็นมันหลายปีก่อนหน้านี้แล้ว"
 
ขณะเดียวกันก็มีผู้เชื่อเรื่องนิบิรุอ้างว่าเหล่านักดาราศาสตร์และนาซ่า ต่างก็สมคบคิดกันเพื่อปกปิดเรื่องนิบิรุเพราะเกรงว่าจะเกิดความแตกตื่น ซึ่งยิโอแมนก็ตอบโต้เรื่องนี้ในเชิงติดตลกว่า "ไม่มีทางที่โลกใบนี้จะทำให้นักดาราศาสตร์เงียบในเรื่องใดได้เลย"
 
 
ดาวเคราะห์เรียงตัวระนาบเดียวกัน
 
ยังมีการอ้างอีกว่า การเรียงตัวในระนาบเดียวกันของดาวเคราะห์ในปี 2012 จะส่งผลต่อเรื่องแรงโน้มถ่วง
 
"แต่จะไม่มีการเรียงตัวของดาวเคราะห์ในวันที่ 21 ธ.ค. 2012" ยิโอแมนกล่าว
 
หรือถ้าหากว่ามีการเรียงตัวของดาวเคราะห์เกิดขึ้นจริง มันก็จะไม่ทำให้เกิดปัญหาใดๆ สิ่งที่มีอิทธิพลสำคัญต่อเรื่องโน้มถ่วงของโลกจริงๆ คือดวงอาทิตย์กับดวงจันทร์ เช่นที่เราเห็นได้จากกรณีน้ำขึ้นน้ำลง การที่ดาวเคราะห์ดวงอื่นๆ ในระบบสุริยจักรวาลของเราจะส่งผลต่อกระแสน้ำนั้นเป็นแค่เล็กน้อย และพวกเราก็ประสบกับมันมาหลายล้านปีโดยที่ไม่ได้มีปัญหาใดๆ
 
 
พายุสุริยะ
 
ความกลัวอีกเรื่องหนึ่งในปี 2012 คือ ปรากฏการณ์พายุสุริยะ (Solar Storm)
 
พายุสุริยะคือปรากฏการณ์ของกระแสอนุภาคพลังงานถูกส่งออกมาจากดวงอาทิตย์เป็นจำนวนมาก ซึ่งปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นในทุกระยะเวลา 11 ปี เมื่อเกิดพายุสุริยะโหมเข้ามายังโลก มันจะทำให้เกิดแสงเหนือ-แสงใต้ (auroras) ที่สามารถทำความเสียหายต่อดาวเทียมและระบบกระแสไฟฟ้า แต่ยิโอแมนก็กล่าวว่า "มันไม่ถึงขั้นทำให้เกิดความเสียหายในระยะยาว"
 
มีบันทึกการเกิด "พายุสุริยะครั้งใหญ่" โหมมาสุ่โลกในปี 1859 แม้ว่าในตอนนั้นจะทำให้เกิดความเสียหายน้อยมาก แต่ในปัจจุบันมีความกลัวว่าพายุสุริยะจะสร้างความเสียหายได้มากขึ้นกว่าเดิมเนื่องจากโลกยุคปัจจุบันมีการพึ่งพาเครื่องใช้ไฟฟ้ามากขึ้น
 
อย่างไรก็ตามยิโอแมนกล่าวว่า "ยังไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่าพายุสุริยะจะเกิดขึ้นในวันที่ 21 ธ.ค. ปีหน้า" มันเป็นไปไม่ได้ที่จะทำนายปรากฏการณ์ของดวงอาทิตย์ที่อยู่ไกลออกไป และแม้ว่าจะเกิดปรากฏการณ์พายุสุริยะในระดับรุนแรงถึงขีดสุดก็ไม่สามารถทำให้เกิดโลกาวินาศเช่นที่ผู้คนหวาดกลัวกันได้
 
 
แกนโลกพลิก
 
โลกของเรามีแกนโลกอยู่สองประเภทในเชิงภูมิศาสตร์ ซึ่งเป็นตัวแกนการหมุนของดาวเคราะห์เรา และยังมีสถานะเป็นแกนแม่เหล็กที่เกี่ยวข้องกับสนามแม่เหล็กโลกทำให้เข็มทิศของเราชี้ไปทางทิศเหนือเสมอ
 
บางคนกลัวว่าแกนโลกทั้งสองแกนนี้อาจจะพลิกในปี 2012
 
อย่างไรก็ตามแกนโลกในเชิงภูมิศาสตร์นี้ไม่มีทางพลิกเนื่องจากมีดวงจันทร์คอยทำให้การหมุนของโลกเสถียรอยู่เสมอ
 
แกนแม่เหล็กโลกอาจจะมีการพลิกบ้างในบางครั้ง แต่ก็จะเกิดขึ้นในระยะเวลาราวทุกๆ 500,000 ปี การเปลี่ยนแปลงนี้ก็ไม่ได้เกิดขึ้นกระทันหัน แต่จะค่อยๆ เกิดขึ้นอย่างช้าๆ นานหลายพันปี ยิโอแมนบอกว่า ยังไม่หลักฐานบ่งชี้ว่าจะเกิดการพลิกในวันที่ 21 ธ.ค. 2012 และถ้าหากมีการพลิกตัวเกิดขึ้นจริง มันก็ไม่ได้สร้างปัญหาอะไรนอกจากว่าเราต้องเปลี่ยนทิศทางหลักของเข็มทิศจากทิศเหนือเป็นทิศใต้เท่านั้น
 
ยิโอแมนกล่าวว่า ในที่สุดแล้วแม้แต่คนฉลาดก็สามารถเชื่อในเรื่องแปลกๆ ได้ด้วยหลายเหตุผล อย่างเช่นการที่มีข้อมูลจริงถูกผสมปนเปกับวิทยาศาสตร์ขยะ (junk science) ขณะที่เกร็ดหลักฐานเล็กๆ น้อยๆ และการโต้เถียงอย่างเผ็ดร้อนทางอินเตอร์เน้ตกับโทรทัศน์ก็ถูกนำมาอ้างว่าเป็นข้อเท็จจริง ซึ่งหลายครั้งก็เป็นความเข้าใจผิดต่างจากเรื่องที่เกิดขึ้นจริง
 
"นักวิทยาศาสตร์ได้ช่วยทำงานแทนพวกเขาแล้ว" ยิโอแทนกล่าว "พวกเราควรจะทำงานให้หนักขึ้นในการให้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์แก่ประชาชนทั่วไป"
 
 
 

 

 

สมัครรับข่าวความเคลื่อนไหวจากประชาไท ผ่านทางอีเมล ดูรายละเอียดที่ http://groups.google.com/group/prachatai-newspaper

Viewing all articles
Browse latest Browse all 51020

Trending Articles



<script src="https://jsc.adskeeper.com/r/s/rssing.com.1596347.js" async> </script>