เกิดเหตุปะทะกันระหว่างผู้ชุมนุมฝ่ายสนับสนุนปธน. และฝ่ายต่อต้าน หน้าทำเนียบ ปธน. มีการขว้างก้อนหิน ไล่รื้อเต็นท์และขว้างระเบิดเพลิง จนทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ล่าสุดมีการวางกำลังรถถังและทหาร 'องครักษ์พิทักษ์สาธารณรัฐ' ซึ่งมีหน้าที่ปกป้องประธานาธิบดีและทำเนียบ
เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 2012 มีการวางกำลังรถถัง 5 คันนอกทำเนียบประธานาธิบดีของอียิปต์ หลังเกิดเหตุปะทะกันระหว่างผู้ชุมนุมฝ่ายสนับสนุนและฝ่ายต่อต้าน ปธน. โมฮาเม็ด มอร์ซี
ขณะเดียวกันสำนักข่าวรัฐบาลอียิปต์ก็เปิดเผยว่าการวางกำลังทหารโดยรอบทำเนียบเป็นไปเพื่อ 'อารักขา' อาคารที่ทำการ มีรถขนทหาร 9 คันอยู่บนถนนนอกทำเนียบ โดยทหารที่อารักขาเป็นสมาชิกของกลุ่มที่ชื่อรีพับรีกันการ์ด หรือ 'องครักษ์พิทักษ์สาธารณรัฐ' ซึ่งมีหน้าที่ปกป้องประธานาธิบดีและทำเนียบ
กระทรวงสาธารณสุขอียิปต์ออกมาเปิดเผยว่ามีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นในวันที่ 5-6 ธ.ค. จากการปะทะกันระหว่างฝ่ายสนับสนุนและฝ่ายต่อต้าน ปธน. มอร์ซี ใกล้ทำเนียบ จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 ราย และมีผู้บาดเจ็บรวมทั้งหมดราว 770 ราย
เหตุปะทะระหว่างสองฝ่าย
เหตุรุนแรงเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 5 ธ.ค. เรื่อยมาจนถึงช่วงเช้าวันที่ 6 ธ.ค. โดยที่มีการเผายางและแต่ละฝ่ายต่างก็ขว้างก้อนหินและระเบิดเพลิงใส่กัน เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลได้เข้ามาสลายการชุมนุมที่มีการปะทะกันในช่วงวันที่ 5 ธ.ค. ซึ่งทางการอียิปต์เปิดเผยว่ามีผู้ถูกจับกุม 32 คน
ในช่วงบ่ายวันที่ 6 ธ.ค. ก็เกิดเหตุปะทะขึ้นอีกครั้งเมื่อผู้ชุมนุมแต่ละฝ่ายต่างก็ขว้างปาก้อนหินใส่กัน แม้จะมีกำลังทหารอยู่ในพื้นที่
เชอรีน ทาดรอส นักข่าวอัลจาซีร่ากล่าวว่าผู้ชุมนุมหลายร้อยคนยังคงอยู่ในพื้นที่ แต่ที่หนีไปส่วนใหญ่เป็นผู้ชุมนุมฝ่ายต่อต้านมอร์ซี
เหตุเกิดขึ้นหลังจากที่นักกิจกรรมฝ่ายต่อต้านมอร์ซีปักหลักชุมนุมอยู่หน้าทำเนียบประธานาธิบดีตั้งแต่คืนวันที่ 4 ธ.ค. เพื่อต่อต้านการประกาศกฤษฎีกาของมอร์ซีซึ่งจะทำให้เขาได้อำนาจเบ็ดเสร็จ แต่ต่อมาฝ่ายสนับสนุนมอร์ซีได้เดินขบวนเข้ามาที่ทำเนียบและทำลายเต็นท์ที่พักของฝ่ายต่อต้าน รวมถึงขว้างปาก้อนหินและใช้ไม้ไล่ตีพวกเขา จากคำให้การของผู้เห็นเหตุการณ์
หลังจากนั้นไม่นาน กลุ่มต่อต้านมอร์ซีก็กลับมาแล้วขว้างปาระเบิดเพลิงใส่ผู้สนับสนุนปธน. ซึ่งโต้ตอบกลับด้วยก้อนหิน นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าที่ทำการของกลุ่มภราดรภาพมุสลิมในเมืองอิสมาอิลิยา และสุเอซ ถูกเผา
ทั้งสองฝ่ายต่างกล่าวโทษว่าอีกฝ่ายเป็นผู้เริ่มต้นเหตุรุนแรง โดยแกนนำฝ่ายต่อต้านบอกว่ามอร์ซีต้องรับผิดชอบกับการนองเลือด ขณะที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของภราดรภาพมุสลิมกล่าวหาว่าฝ่ายต่อต้านเป้นผู้ยั่วยุให้เกิดความรุนแรง
เรียกร้องการเจรจาระดับชาติ
ตั้งแต่เกิดเหตุปะทะดังกล่าว ปธน. โมฮาเม็ด มอร์ซี ยังไม่ได้ออกมแถลงการณ์ใดๆ ต่อหน้าสาธารณชน แต่ทางด้านนายกรัฐมนตรี ฮิสชัม คานดิล ออกมากล่าวเรียกร้องให้อยู่ในความสงบและให้โอกาสการเปิดเจรจาหารือระดับชาติ
ทางด้านอัล-อัซชาร์ ซึ่งเป็นวิทยาลัยอิสลามชั้นนำของอียิปต์ก็ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ประธานาธิบดียกเลิกกฤษฎีกาให้อำนาจกับตนเองและเรียกร้องให้มีการเจรจาระหว่างมอร์ซีกับฝ่ายต่อต้านอยางไม่มีเงื่อนไข
นอกจากนี้ยังเกิดการแบ่งแยกในรัฐบาลของมอร์ซี โดยที่ปรึกษาของมอร์ซี 3 คน ขอลาออกเพื่อเป็นการประท้วงในวันที่ 5 ธ.ค. รายหนึ่งคือ ซาอีฟ อับเดลฟาตาห์ ประกาศลาออกขณะกำลังให้สัมภาษณ์ต่ออัลจาซีร่า โดยอ้างว่าวัฒนธรรมการเมืองของอียิปต์ที่ถูก "ดองเป็นมัมมี่" ทำให้เขาต้องลาออก นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่รัฐบาลบางคนที่เป็นชาวคริสเตียนลาออกด้วย
อัลจาซีร่าระบุว่าการปะทะและความตึงเครียดที่เกิดขึ้นในวงกว้าง แสดงให้เห็นความแตกแยกระหว่างสองฝ่ายคือฝ่ายภราดรภาพมุสลิมรวมถึงกลุ่มอิสลามอนุรักษ์นิยมจัด กับอีกฝ่ายคือกลุ่มเสรีนิยม, ฝ่ายซ้าย และชาวคริสต์
เรียบเรียงจาก
Egypt deploys tanks outside Morsi palace, Aljazeera, 06-12-2012
Several killed in Egypt clashes, Aljazeera, 06-12-2012