![]()
วันนี้ผู้เขียนได้มีประสบการณ์จริงกับการเข้าสู่กระบวนการปฏิบัติตามศาลชั้นต้นสั่ง คือ รายงานตัวทุกสามเดือนต่อครั้งในระยะเวลา 1 ปี ให้ทำงานบริการสังคม 12 ชั่วโมง ถึงแม้นเราจะอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้น แต่เราก็ต้องเข้าสู่การ “คุมประพฤติ และงานบริการสังคม” ผู้เขียนโดนคดี อัยการฟ้อง“หมิ่นประมาทผู้อื่นโดนเครื่องกระจายเสียง ตามมาตรา 326,328 ประมวลกฎหมายอาญา ศาลสั่งจะคุก 4 เดือน รองอาญาสองปีและคุมประพฤติ 1 ปี สามเดือนครั้งและบริการสังคม 12 ชั่วโมง ปรับ 80000 บาท
ต้องทำอะไรบ้าง??
ผู้เขียนไปรายงานตัวทันทีที่สำนักงานคุมประพฤติ เมื่อจ่ายค่าปรับเรียบร้อย เมื่อไปถึงก็ต้องถ่ายรูป ถือป้ายหมายเลข หน้ากล้องคอมพิวเตอร์ และไปพบพนักงานคุมประพฤติให้กรอกข้อความหลายหน้า เป็นคำถามทั้งหมดเกี่ยวกับครอบครัว และที่อยู่ปัจจุบันและทำแผนที่ที่อยู่ให้เรียบร้อย และมีคำถามนึงที่สะดุดตาคือเมื่อฟังอ่านคำพิพากษาแล้วรู้สึกอย่างไร เช่นไม่สำนึก จะปรับตัว ไม่รู้สึกผิด เป็นต้น
ผู้เขียนได้สมุดพกสีเหลืองมาหนึ่งเล่ม ด้านหน้าเป็นเลขทะเบียน เบอร์โทรสำนักงาน และชื่อพนักงานคุมประพฤติเจ้าของสำนวน หน้าสองเป็นชื่อนามสกุลผู้เขียน เงื่อนไขคุมประพฤติ
หน้าสามคือกำหนดนัดรายงานตัว ผู้เขียนได้ 4 นัด คือ
นัดแรก 4 กันยายน 2555 นัดมาปฐมนิเทศ เวลา 8.30น.-12.00น.
ครั้งที่ 2 วันที่ 25 ธันวาคม 2555
ครั้งที่ 3 วันที่ 5 มีนาคม 2556
ครั้งที่ 4 มิถุนายน 2556
วันนี้วันที่ 4 กันยายน 2555 ผู้เขียนแต่งตัวเรียบร้อยใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาว กางเกงขายาว ใส่เสื้อเข้ากางเกง คาดเข็มขัด ใส่รองเท้าหุ้มส้นอย่างเรียบร้อย เพราะความเป็นคนในสังคมก็ย่อมรู้ว่าจะแต่งตัวอย่างไรให้เหมาะสม ไปถึง 8.15 น. เมื่อเข้าไปสอบถามเจ้าหน้าที่ให้ขึ้นไปห้องประชุมชั้นสอง
ในห้องเจ้าหน้าที่สั่งให้คนที่มาคุมประพฤติจัดเก้าอี้ และให้เก้าอี้ทุกตัวตรงกันและให้ใครมาก่อนเข้ามานั่งหน้าก่อน
ผู้เขียนก็ได้นั่งหน้า สักแป๊บก็มีเจ้าหน้าที่ผู้ชายมาแนะนำตัวและแจกเอกสารให้กรอกหมายเลข และชื่อนามสกุล และเข้าแถวลงทะเบียน ในลงทะเบียนจะให้เขียนฐานความผิดและให้กลับมานั่งที่เดิม
เจ้าหน้าที่ผู้ชายแนะนำตัวเริ่มบรรยาย ว่าอยากแนะนำองค์กรแต่ไม่แนะนำให้พวกเราไปหาอ่านกันที่บอร์ดหน้าสำนักงาน และบอกว่าพวกเราที่มาทีนี่ได้ถูกส่งชื่อไปที่ระบบอาชญากรรมแห่งประทศไทยแล้วทุกคน นัดที่สองต้องมาตรงตามเวลานัดและมาไม่เกินเที่ยงแต่ถ้า11 โมงแล้วก็ไม่ต้องมาสรุปคือมาแต่เช้า และถ้าเราไม่มาก็จะออกหมายเรียกไปที่บ้ายที่อยู่ปัจจุบันและภูมิลำเนาใครมีพ่อแม่อยู่บ้านก็ต้องระวังเพราะตราครุฑอาจจะทำให้พ่อแม่ตกใจไม่สบายใจ และเจ้าหน้าที่จะทำรายงานผู้พิพากษา อาจจะถูกยกเลิกการรอลงอาญาได้
งานบริการทางสังคม
วันที่ 18 กันยายน 2555 นี้ทางสำนักงานคุมประพฤติได้สร้างวัดธรรมสถิต อยู่ในซอยมังกร ใครมีความสามารถด้านช่างเช่นก่ออิฐฉาบปูน ก็แจ้งมาได้ ส่วนผู้หญิงก็อาจจะเสิร์ฟน้ำทำอาหารในโรงครัว
ส่วนคนที่มีความรู้ด้านคอมพิวเตอร์ ลายมือสวย ก็สามารถมาขอบริการงานสังคมที่สำนักงานคุมประพฤติได้ทุกวันเช่นมาทำงานเก็บข้อมูลลงคอมพิวเตอร์ หรือถ้าทำไม่ได้ก็มีการปลูกแปลงผักเศรษฐกิจพอเพียงด้านหลังสำนักงาน ก็จะได้ชั่วโมงบริการสังคม และไม่ต้องมาติดสินบนเจ้าหน้าที่เพราะเราเป็นราชการในพระบาทสมเด็จพระเข้าอยู่หัว เราต้องการคืนคนดีสู่สังคม ใครเมาแล้วขับก็สามารถไปยืนชูป้ายรณรงค์งดเหล้า ตามสี่แยกก็จะได้ชั่วโมงเหมือนกัน หรือไปแจ้งความประสงค์ที่จะไปช่วยเหลือหน่วยงานรัฐหรือที่อื่นๆ ก็ต้องมาบริการที่สำนักงานคุมประพฤติก่อน 1 ครั้งก่อนจะขอไปทำที่อื่น ต้องได้ใบส่งตัวก่อนถึงจะได้ไป และอาจจะมีเจ้าหน้าที่ไปสุ่มตรวจว่าไปทำจริงหรือเปล่า
คนที่สองเจ้าหน้าที่ผู้หญิง ก็แจ้งให้ทราบว่าการคุมประพฤติสูงสุดไม่เกิน 5 ปี ถ้าใครเกินให้ไปติดต่อที่ ศษล แสดงว่าเจ้าหน้าที่ศาลเขียนผิด “การบริการสังคมหมายความว่าเป็นการบริการไม่มีค่าตอบแทน”
คือการทำความสะอาดวัดวาอาราม สะถานที่ราชการ และถ้าต้องการไปทำมี่อื่นต้องมาขอใบส่งตัวและตรวจเช็คว่ามีหน่วยงานนั้นจริงหรือเปล่า และต้องบริการสังคมก่อนการรายงาน ตัวคุมประพฤติจะหมดครั้งสุดท้าย
จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็เรียกถามว่า ใครโดนคดียาเสพติดให้ยกมือ ใครเมาแล้วขับยกมือ ใครไม่ยกโดนคดีอะไรกันบ้าง ผู้เขียนตอบว่าให้ไปดูสมุดเอาเอง ส่วนชายหนุ่มนั่งข้างซ้ายอนาจาร ข้างขวายาเสพติด และบรรยายต่อว่าพวกเราเป็นคนที่มีสิทธิพิเศษเป็นคนที่ศาลเมตตาต้องการให้เราเป็นคนดี และเห็นว่าพวกเรามีโอกาสกลับตัวได้ไม่ต้องเข้าไปอยู่ในเรือนจำ
กรณีตัวอย่างเหมือนกรณี สาวซีวิคก็ถือว่าศาลเมตตาตัดสินด้วยความยุติธรรม
การมาสำนักงานคุมประพฤติต้องแต่งกายเรียบร้อย ไม่ควรใส่สายเดี่ยว กางเกงขาสั้น กระโปรงสั้น เสื้อคอกว้าง เพราะคนที่มาสำนักงานคุมประพฤติมีทั้งโดนดคีอนาจาร ยาเสพติด สรุปง่ายๆก็มีแต่อาชญากรระวังตัวไว้ด้วย(สรุปนี่ผู้เขียนเข้าใจเอง)
กรณีนัดรายงานตัว อนุญาตให้มารายงานในเดือนนั้นวันไหนก็ได้ยกเว้นวันหยุด เฉพาะ จันทร์ อังคาร พุทธ เท่านั้นไม่เกินเที่ยง
มีรายงานตัวสัญจรได้ทีตามนี้ ตั้งแค่ 8.30น.-12.00น .
พฤหัสบดีที่ 1 ของเดือน โรงเรียนรัตนโกสินทร์ 9 เคหะบางพลี
พฤหัสบดีที่ 2 ของเดือน 1-ห้องประชุมลัดหลวงชั้นสี่ พระประแดง
2-ศูนย์ยุติธรรมชุมชนหระสมุทรเจดี สุขสวัสดิ์ 55
พฤหัสบดีที่ 3 ที่ว่าการอำเภอบางพลี อาคารสาธารณะภัย
พฤหสบดีที่ 4 1-ศูนย์ยุติธรรมบางหญ้าแพรก พระประแดง
2-เทศบาลด่านสำโรง
การขาดรายงานตัว
1.โทรมาแจ้ง เจ็บป่วยมีใบรับรองแพทย์
2.นักศึกษาติดสอบ
เหตุผลที่ไม่สามารถรับฟังได้ เช่น ขาดงานไม่ได้จะโดนไล่ออก ขาดงานแล้วไม่ได้เบี้ยขนันหรือโบบัส
เมื่อรายงานคัวครบมีเงินสงเคราะห์ให้
1.ค่าพาหนะ จ่ายค่ารถเมถ์
2.ค่าศึกษาเล่าเรียน
3.ทุนประกอยอาชีพ
4.ฝึกอาชีพ
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะพิจารณาเองทั้งหมด
หมายเหตุ: การบริจาคโลหิต 1 ครั้งได้ชั่วโมงบริการสังคม 6 ชั่วโมง
การเจาะเลือดแล้วผลเลือดไม่ได้ ได้ชั่วโมงบริการสังคม 3 ชั่วโมง
ถ้าต้องการไปช่วยเหลืองานบริการสังคมที่อื่นที่เราต้องการไป ต้องเป็นหน่วยงานรัฐต้องมาขอใบส่งตัวต่อเจ้าหน้าที่และขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่จะพิจารณา
การขอย้ายไปคุมประพฤติที่จังหวัดอื่นได้ เจ้าหน้าที่ต้องอนุญาต
ส่วนคนเมาแล้วขับ วันที่ 26 กันยายน 2555 ต้องไปอบรมการขับรถใหม่ที่ศูนย์รถยนต์ฮอนด้า
ข้อคิดเห็นและข้อแนะนำต่อเจ้าหน้าที่สำนักงานคุมประพฤติ
1.การคุมประพฤติมุ่งเน้นบริการทางสังคมคือช่วยเหลือศาสนาพุทธมากไป การปฐมนิเทศ วิทยากรเน้นการบริการทางสังคมคือการช่วยสร้างวัด การกวาดลานวัด ยกตัวอย่างแต่การทำงานให้กับวัด เท่ากับการบริการสังคมของผู้ถูกศาลสั่งมุ่งเน้นการบริการทางสังคมกับศาสนาพุทธเท่านั้นและการไปสร้างวัดก็จะมีเจ้าหน้าที่พาไป แต่ถ้าเป็นหน่วยงานรัฐอื่นต้องมาขอใบส่งตัวจากสำนักงานคุมประพฤติและต้องได้รับการอนุญาตถึงจะไปทำได้ และไปทำมาก่อนไม่มีใบส่งตัวหรือไม่ได้ไปกับเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ชั่วโมง
เช่นการสร้างวัดในโครงการของสำนักงานคุมประพฤติปีนี้คือสร้างวัดธรรมสถิต ถ้าผู้หญิงทำงานหนักไม่ได้ก็อาจจะทำครัวหรือเสิร์ฟน้ำ เจ้าหน้าที่ต้องมีมุมมองเท่าเทียมชายหญิง
2.การให้คนเข้ามาช่วยงานในสำนักงานคุมประพฤติ เช่นปลูกแปลงผักพอเพียงไว้รองรับการคืนคนดีสู่สังคม การเข้าสู่การบริการทางสังคมต้องเข้ามาทำที่สำนักงานคุมประพฤติก่อนครั้งแรกทุกคน ก่อนที่จะมีสิทธิ์ขอใบส่งตัวไปทำงานบริการสังคมที่หน่วยงานอื่นของรัฐหรือมูลนิธิ โรงเรียน อบต.งานที่สำนักงานคุมประพฤติมีสองอย่างคือการช่วยทำเอกสาร ใครมีความสามารถด้านคอมพิวเตอร์ก็อาจจะทำหน้าที่กรอกข้อมูล ลายมือสวยก็อาจจะทำให้เขียน แต่ถ้าทำไม่ได้ทั้งสองอย่างก็มีแปลงปลูกผัก โครงการแปลงผักพอเพียงของสำนักงาน ก็ต้องไปทำแปลงผัก รดน้ำพรวนดิน ถอนหญ้าใส่ปุ๋ย และถ้าเราไม่มีความสามารถอะไรเลย และทำงานหนักไม่ได้ต้องมีใบรับรองแพทย์มารับรอง
3.ควรทำคู่มือแจกไว้เลยหลักการปฎิบัติที่สำคัญหลักเกณฑ์การคุมประพฤติเช่นการรายงานตัว ทำคู่มือและแจ้งสถานที่สัญจรให้กับผู้ถูกคุมประพฤติ การไม่มารายงานตัวมีขั้นตอนอะไรบ้าง ตามเงื่อนไขพิเศษที่ทางสำนักงานคุมประพฤติกำหนดใหม่ เพื่อความชัดเจนในการสื่อสาร เพราะการบรรยายแบบกระโดดไปกระโดดมา นึกอะไรได้ก็พูดไม่สามรถทำให้คนเข้าใจตรงกันได้ และคอยถามว่าเข้าใจมั๊ยค่ะ อยู่ตลอดเวลา
4.ไม่ควรอย่างยิ่งในการเรียกถามว่าใครโดนคดีอะไร
5.เจ้าหน้าที่คุมประพฤติต้องไม่มุ่งเน้นการบังคับให้เป็นไปตามกรอบที่เจ้าหน้าที่ต้องการเช่นเก้าอี้ต้องตรงกันทุกตัว ทำตามกรอบของกฎหมายก็เพียงพอแล้ว
6.เจ้าหน้าที่ไม่สามารถทำตามเป้าหมายได้ คือการคืนคนดีสู่สังคม ไม่สามารถแก้ปัญหาได้จริงเพราะเจ้าหน้าที่ไม่รู้รากเหง้าของปัญหาอย่างแท้จริง มองคนที่มาสำนักงานคุมประพฤติคือคนที่ต้องแก้ปัญหาเพราะเขาคืออาชญากร
สมุดปกเหลืองคือทรัพย์สินของทางราชการเมื่อจบคุมประพฤติต้องคืน และให้รักษาเท่าชีวิต
ที่สำคัญสุดท้าย เขาขานชื่อนางสาว จิน- ตะ- หรา คะ-ชะ-เดช เลยรอตั้งนาน
4 กันยายน 2555
ติดตามความเคลื่อนไหวของ ประชาไท ทางอีเมล คลิกอ่าน http://goo.gl/8xIcV หรือเฟซบุ๊ค http://fb.me/Prachatai