สองบริษัทยักษ์ใหญ่วงการหนังสือไม่เข้าร่วมประชุม กรณีเงินกินเปล่า1% กระทรวงพาณิชย์ชี้การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการกระจายสินค้าจากสองบริษัทส่อว่าพยายามมีอำนาจเหนือตลาด
วันที่ 14 ส.ค. 2555 เวลา 13.30 น. ณ อาคารรัฐสภา คณะอนุกรรมาธิการพัฒนาการเมืองและการสื่อสารมวลชน ซึ่งมีนายวัชระ เพชรทอง เป็นประธานคณะอนุกรรมาธิการ ได้เชิญผู้ทรงคุณวุฒิจากหลายฝ่าย อาทิตัวแทนจากหอสมุดแห่งชาติ กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงพาณิชย์ เครือข่ายสำนักพิมพ์อิสระขนาดเล็ก สมาคมนักเขียน สมาคมผู้จัดพิมพ์และจัดจำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย เครือข่ายนิสิตนักศึกษาผู้รักการอ่าน ฯลฯ เพื่อมาร่วมพิจารณาและรับฟังความเห็นต่อกรณีของการเรียกเก็บเงินค่าธรรมเนียมศูนย์กระจายสินค้าในอัตรา 1% ของมูลค่าส่งสินค้าราคาปกจากบริษัทซีเอ็ดยูเคชั่น จำกัด (มหาชน) และ บริษัทอมรินทร์บุ๊คเซนเตอร์จำกัด
ทั้งนี้เนื่องจากทั้งสองบริษัทได้ทำจดหมายถึงเจ้าของและผู้จัดการสำนักพิมพเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคมที่ผ่านมา ขอเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการกระจายสินค้า ( Distribution Center Fee ) จากสำนักพิมพ์และผู้จัดจำหน่ายทุกแห่ง สาเหตุที่ต้องเรียกเก็บค่ากระจายสินค้านี้ ทั้งสองบรษัทอ้างว่านโยบาย
หลังจากจดหมายฉบับนี้อออกมา ได้มีเสียงหลายเสียงแสดงท่าทีไม่เห็นด้วยทั้งจากสมาคมผู้จัดพิมพ์และจัดจำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย เครือข่ายธุรกิจหนังสืออิสระขนาดเล็ก สำนักพิมพ์ต่างๆ เครือข่ายนิสิตนักศึกษาผู้รักการอ่าน ฯลฯ ทั้งนี้เนื่องจากเมื่อมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการกระจายสินค้าดังกล่าว ต้นทุนการผลิตของผู้ประกอบการมีต้นทุนที่สูงขึ้นในทันใด เมื่อต้นทุนสูงขึ้น ราคาหนังสือก็สูงขึ้นตามในทันใด ส่งผลกระทบทั้งผู้ผลิตและผู้อ่าน ซึ่งเป็นวงจรสำคัญของธุรกิจหนังสือ การแสดงท่าทีไม่เห็นด้วยนี้เกิดขึ้นอย่างกว้างขวางทั้งในพื้้นที่โซเชียลมีเดีย และพื้นที่ของสื่อสิ่งพิมพ์ในที่ต่างๆ
นายวุฒิเทพ ทิมทอง สำนักส่งเสริมการแข่งขันทางการค้า กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ต้องดูว่าบริษัทซีเอ็ดยูเคชั่น จำกัด และบริษัทอมรินทร์บุ๊คเซนเตอร์จำกัดทำผิดกฎหมายการแข่งขันทางการค้าหรือไม่ ซึ่งมีกฎหมาย มาตรา 25 และมาตรา 29 แห่ง พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า พ.ศ.2542 เรื่องของการใช้อำนาจเหนือตลาด การจะดูได้ว่าบริษัทไหนใช้อำนาจเหนือตลาดหรือไม่ มีเกณฑ์ตรวจสอบได้สองหลักเกณฑ์ใหญ่ๆ ได้แก่
อีกประเด็นสำคัญที่นายวุฒิเทพ เสนอวันนี้ คือ มี ” การฮั้วกัน” ของทั้งสองบรษัทหรือไม่ เข้าข่ายมาตรา 27(3) เป็นเรื่องของการทำความตกลงร่วมกันเพื่อครอบครองตลาดหรือควบคุมตลาด จากที่ได้ดูหนังสือที่ลงวันที่ 5 กรกฎาคม อาจเป็นไปได้ว่าเรื่องของการฮั้วกัน ต้องดูว่าทั้งนายอินทร์และซีเอ็ดมีอำนาจลงนามหรือไม่ อาจนำมาเป็นกรณีตัวอย่างการรับเรื่องร้องเรียนมาพิจารณาอีกครั้งในกระบวนการของกฎหมายต่อไป”
ในตอนท้าย นายวรพันธ์ โลกิจสถาพร นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และจัดจำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย กล่าวว่าการขึ้นค่าธรรมเนียมการกระจายสินค้านี้ผลกระทบจะรุนแรงและไปสู่วงกว้างกว่าที่คิด มันจะมีผลต่อธุกิจหนังสือทั้งระบบ อยากให้หน่วยงานของรัฐเข้ามามีส่วนช่วยผลักดันในการลดต้นทุนการผลิต เพื่อให้ระบบการพิมพ์และการจัดจำหน่ายของหนังสือในประเทศไทยทีที่ทางที่ดีกว่านี้
อนึ่ง การประชุมรับฟังความคิดเห็นในวันนี้้ตัวแทนจากบริษัทซีเอ็ดยูเคชั่น และตัวแทนจากบริษัทอมรินทร์บุ๊คเซนเตอร์จำกัดไม่ได้มาเข้าร่วมประชุมรับฟังความคิดเห็นแต่อย่างใด การประชุมจะมีขึ้น อีกครั้งวันอังคารที่ 21 สิงหาคม ศกนี้ นายวัชระ เพชรทอง ประธานอนุกรรมการ ฯ กล่าวว่าจะเชิญทั้งสองบริษัทมาร่วมประชุมอีกครั้งหนึ่ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :1%Effect: สนพ.นักอ่าน นักศึกษาล่ารายชื่อค้านซีเอ็ด,อมรินทร์กินรวบวงการหนังสือ
:วาด รวี: ผู้จัดจำหน่ายหนังสือ, เหยื่อรายแรกของการเก็บค่ากระจายสินค้าร้านหนังสือซีเอ็ด-นายอินทร์
: นิธิ เอียวศรีวงศ์ เขียนเรื่อง ตลาดออนไลน์ แก้ปัญหากินดิบ 1 %
: นักข่าวพลเมือง: นศ.บุกสภา ยื่นค้าน “ซีเอ็ด-นายอินทร์” ผูกขาดตลาดวรรณกรรม