มีรายงานว่า ตั้งแต่วันที่ 7 ม.ค. ที่ผ่านมา ทางการพม่าได้มีคำสั่งยกเลิกการตั้งด่านตรวจบ้านน้ำฮูขุ่น บนเส้นทางระหว่างเมืองล่าเสี้ยว - เมืองแสนหวี รัฐฉานภาคเหนือ ด่านตรวจดังกล่าวเป็นด่านตรวจถาวรตั้งมานาน มีเจ้าหน้าที่ประจำอยู่หลายหน่วยงาน ทั้งทหาร ตำรวจ หน่วยปราบปรามยาเสพติด เจ้าหน้าที่ศุลกากร
การสั่งยกเลิกด่านตรวจดังกล่าว ทำให้ประชาชนรวมถึงกลุ่มพ่อค้าที่สัญจรเส้นทางดังกล่าวเป็นประจำต่างพากันดีอกดีใจ เหตุเนื่องจากทำให้การเดินทางพวกเขาสะดวก ไม่ต้องถูกตรวจค้นสิ่งของทรัพย์สินเข้มงวด และไม่ต้องถูกเจ้าหน้าที่รีดไถเงินเช่นที่ผ่านมา
พ่อค้าขับรถบรรทุกคนหนึ่งเผยว่า คำสั่งยกเลิกด่านตรวจดังกล่าวมีขึ้น หลังดร.จายหมอกคำ รองประธานาธิบดีที่ 2 ของพม่า เดินทางเยือนรัฐฉานภาคเหนือเมื่อ 13-14 ธ.ค. ระหว่างนั้นมีชาวบ้านและกลุ่มพ่อค้ารวมตัวกันยื่นหนังสือร้องเรียนเปิดเผยพฤติกรรมเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจ ซึ่งอาจเป็นเหตุนำไปสู่การสั่งยกเลิกการตั้งด่านแห่งนี้
"ก่อนหน้านี้การเดินทางสัญจรเส้นทางสายเมืองล่าเสี้ยว – แสนหวี ต้องเสียเวลาที่ด่านตรวจมากเกินเหตุ เหตุเจ้าหน้าที่มีการตรวจตราข้าวของทรัพย์อย่างเข้มงวด รถยนต์แต่ละคันต้องจอดรออย่างน้อย 45 นาที บางคันต้องเสียเวลานานถึง 2 ชั่วโมง แต่หากรถคันใดยอมจ่ายเงินก็จะไม่ต้องเสียเวลาตรวจค้นมาก" แหล่งข่าวพ่อค้าคนเดิมเผย
ทั้งนี้ เส้นทางสายเมืองมัณฑะเลย์ (พม่า) - เมืองหมู่แจ้ (รัฐฉานภาคเหนือ) ติดชายแดนจีน มีด่านตรวจถาวรของพม่าอยู่ 3 จุด จุดแรกอยู่ห่างจากเมืองมัณฑะเลย์ประมาณ 16 ไมล์ จุดที่สองคือด่านน้ำฮูขุ่น ที่ถูกยกเลิก และจุดที่ 3 ตั้งอยู่ตรงหลักไมล์ 105 เมืองหมู่แจ้ ด่านแต่ละแห่งมีการตรวจค้นเข้มงวดและมีการรีดไถเงินผู้สัญจรไปมาบ่อยครั้ง
ชมภาพ / อ่านข่าวย้อนหลังได้ที่
http://www.khonkhurtai.org/
"คนเครือไท" เป็นศูนย์ข่าวภาคภาษาไทยเครือข่ายสำนักข่าวอิสระไทใหญ่ หรือ สำนักข่าวฉาน (SHAN – Shan Herald Agency for News) มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารจากเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในรัฐฉาน สหภาพพม่า ตลอดจนตามแนวชายแดนไทย ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับองค์กรการเมือง / การทหารกลุ่มใด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ shan_th@cm.ksc.co.th หรือ ติดตามอ่านข่าวสารภาคภาษาอังกฤษได้ที่ www.shanland.org ภาคภาษาไทใหญ่ที่ www.mongloi.org และภาคภาษาไทยที่ www.khonkhurtai.org
สมัครรับข่าวความเคลื่อนไหวจากประชาไท ผ่านทางอีเมล ดูรายละเอียดที่ http://groups.google.com/group/prachatai-newspaper