เรื่อง
ขอให้ลาออกทันทีทั้งคณะ
ก่อนที่ประเทศชาติจะเสียหายเพราะพวกท่านไปมากกว่านี้
ดังเป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่า
คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทำตัวเป็นตัวตลกในสายตาประชาคมโลก การตัดสินให้อดีตนายกรัฐมนตรี สมัคร สุนทรเวช พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยโดยใช้เพียงพจนานุกรมอ้างอิงในกรณีทำรายการอาหารออกโทรทัศน์ สร้างความขบขันให้คนทั้งโลกพร้อม ๆกับความขบขันและเสียงหัวเราะเยาะใส่หน้า ผลเสียที่ติดตามมายังใหญ่หลวงนัก นั่นคือความไม่เชื่อมั่นในขบวนการยุติธรรมของไทย ส่งผลต่อการลงทุนและการทำนิติกรรมระหว่างประเทศเพราะต่างชาติไม่มั่นใจว่าเมื่อไรขบวนการยุติธรรมของไทยจะเล่นตลกที่ขำไม่ออก แต่ส่งผลกระทบต่อความเป็นความตายของการลงทุนระหว่างประเทศ แต่ส่วนหนึ่งของคณะตุลาการที่กระชากนายสมัคร สุนทรเวช ลงจากบัลลังก์นายกรัฐมนตรีด้วยข้อหารับจ้างตามพจนานุกรมนั้น กลับไม่มองดูตัวเอง ที่ทำตัวเป็นลูกจ้าง มีรายได้จากการรับจ้างที่มากกว่าเสียอีก
คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญตีโง่ให้ประเทศชาติเสียหาย การสั่งให้บันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างประเทศไทยและกัมพูชาในเรื่องของการขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกและการใช้ประโยชน์ของที่ดินทับซ้อน 4.6 ตารางกิโลเมตรเป็นโมฆะนั้น นับเป็นการสูญเสียอย่างมหาศาลของประเทศไทยทั้งในปัจจุบันและในอนาคต นั่นคือผลประโยชน์จากการท่องเที่ยวเขาพระวิหารตกเป็นของกัมพูชาแต่เพียงฝ่ายเดียว อีกทั้งการค้าชายแดนระหว่างสองประเทศที่มีมูลค่ามหาศาลต้องหยุดชะงักไปด้วย ซ้ำยังนำไปสู่ความแตกแยกฆ่าฟันกันเองของคนในชาติ และก่อให้เกิดการสู้รบตามชายแดนระหว่างไทยกับประเทศกัมพูชาเป็นเหตุให้สูญเสียชีวิตและทรัพย์สินมากมาย คำสั่งให้เป็นโมฆะของคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูณในเรื่องนี้ยังส่งผลให้ประเทศกัมพูชาส่งเรื่องให้ศาลโลกรื้อฟื้นคำตัดสินคดีเขาพระวิหารเมื่อปี 2505 ซึ่งไทยเป็นผู้แพ้คดีขึ้นมาใหม่ และมีแนวโน้มอาจทำให้ประเทศไทยต้องเสียดินแดนให้ประเทศกัมพูชามากขึ้น เพราะรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ในสมัยนายชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งมี มรว.สุขุมพันธ์ บริพัตร เป็น รมช.ต่างประเทศได้ไปลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU 2543) ตอกย้ำคำตัดสินของศาลโลกอีกครั้ง
คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญไม่มีสำนึกของความยุติธรรม การตัดสินยุบพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน พรรคชาติไทย พรรคมัฌชิมาประชาธิปไตย เป็นการตัดสินที่มิได้ตั้งอยู่บนสำนึกของความเที่ยงธรรมตามจรรยาบรรณของขบวนการยุติธรรม ในขณะที่ตัดสินให้พรรคประชาธิปัตย์รอดจากการถูกยุบพรรคครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งๆ ที่มีหลักฐานและประจักษ์พยานยืนยันแน่นหนา การตัดสินที่ไร้มาตรฐานและขาดสำนึกของความชอบธรรมของคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ส่อถึงจิตวิญญาณที่ละโมภเอนเอียงเพียงเพื่อให้ตนเองและพวกพ้องตลอดจนเจ้าของคอกที่ตนสังกัดได้เสพสุขดูดซับทรัพยากรของชาติ เกาะกุมอำนาจกดขี่ประชาชนต่อไป
คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กระทำการล้ำแดนอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญของฝ่ายนิติบัญญัติ พฤติกรรมล่าสุดของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่ทำให้กระแสการเมืองร้อนระอุ ก่อให้เกิดความแตกแยกโหมกระพือ รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งถูกคุกคาม และอธิปไตยของฝ่ายนิติบัญญัติถูกล่วงละเมิด คือการออกคำสั่งให้รัฐสภายุติการประชุมลงมติในวาระสามของการแก้ไขรัฐธรรมนูณมาตรา 291 จนกว่าคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูณจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น การก้าวล่วงของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญครั้งนี้ เป็นการละเมิดบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญที่ประชาชนไม่อาจยอมรับได้อีกต่อไป เป็นความผิดที่ต้องสะสางและชำระความให้เป็นเยี่ยงอย่าง ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างคณะกรรมการตรวจการแผ่นดิน ต้องก้าวออกมาจัดการตรวจสอบและจัดการ เหมือนกับที่ท่านทำในกรณีของรัฐบาลนายกฯยิ่งลักษณ์และพรรคเพื่อไทย
จากพฤติกรรมทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้น RED USA ขอเรียกร้องให้คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญลาออกทั้งคณะโดยทันที หากปล่อยให้คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญคณะนี้คงอยู่ต่อไป จะนำมาซึ่งความแตกแยก ความเสียหาย ตลอดจนส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อความสงบสุขโดยส่วนรวมของประเทศ และก่อนการลาออก ขอให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้งคณะ จัดแถลงข่าวขอโทษต่อประชาชนในพฤติกรรมที่ไร้สำนึกของความเป็นธรรมตลอดมาของตนเองและคณะที่ก่อความเสียหายให้ประเทศชาติและประชาชน หรือจะออกเป็นจดหมายแสดงความรับผิดชอบต่อประชาชน ก็ขึ้นอยู่กับสำนึก จริยธรรม และมโนธรรมของพวกท่าน
จึงเรียนมาเพื่อโปรดดำเนินการให้ลุล่วงตามคำร้อง
5 มิถุนายน 2555