Quantcast
Channel: ประชาไท
Viewing all articles
Browse latest Browse all 51020

"อยากให้ยิงกบาล" หยาบคาย+กฎหมาย ผลพวงหลังรณรงค์ "No มาตรา112"

$
0
0


เริ่มเป็นที่ตอบรับทั้งจากนานาชาติและกลุ่มผู้ใช้เน็ตเพื่อรณรงค์ประชาธิปไตยและ เสรีภาพทั้งหลาย (Social Network) เริ่มรณรงค์แนวร่วมจากโลกไซเบอร์ ประกาศ "Free from Fear - อิสระจากความกลัวมาตรา 112"

อ. สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ได้พูดถึงการรณรงค์ครั้งนี้ว่า "รณรงค์ NO 112 คราวนีั้ ไม่รู้คุณเล็ก Junya Lek Yimprasert และคุณ @Mongkhon Atthajak ไปสรรหา "นางแบบ" มาจากไหน คนดู มัวแต่โฟกัสที่ "นางแบบ" จน "ลืม" message เรื่อง 112 ไปเลยนะเนี่ย (ฮา) ... ยังมีอีกหลายท่านนะ สนใจตามไปดูที่ fb คุณเล็ก หรือคุณ Mongkhon กันเอาเองเถอะ"
ในขณะที่กระแส ตอบรับในกิจกรรมดีขึ้นเรื่อยๆ โดยมีคนไทยทั้งในประเทศไทยและจากต่างประเทศทยอยส่งรูปมาร่วมกิจกรรมเพื่อจัดทำโปสเตอร์แผ่นแรกฉบับคนไทยและมีการแชร์ภาพและการ  update ข้อมูลต่อเนื่อง (ดู NO มาตรา 112 ระบาดหนัก แพร่สู้โลกไซเบอร์และที่ประเทศฝรั่งเศส)

* * * * *

ACT4DEM กับการรณรงค์ชูป้ายทำโปสเตอร์ "No มาตรา 112" เพื่อเสรีภาพในการแสดงออก


ผลจากกิจกรรมรณรงค์ครั้งล่าสุดของแอคชั่นเพื่อประชาธิปไตยในประเทศไทย (ACT4DEM) โดยการเผยแพร่โปสเตอร์ "ผู้หญิงก้าวหน้าจาก 50 ประเทศทั่วโลกชูป้าย “NO มาตรา 112″ เรียกร้องไทยยอมรับเสรีภาพในการแสดงออก”  เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2555 และมีการเผยแพร่ต่อในหลายเว็บไซต์ ทำให้เกิดผลข้างเคียง โดยในหมู่ผู้นิยมเจ้าบางส่วนได้  “เสียบประจาน”  จรรยา ผู้ริเริ่มการรณรงค์ครั้งนี้  

นอกจาก คำว่าเลว และคำด่าทอตามปกติของคนคลั่งด้วยภาษาหยาบคาย ยังมีการโพสต์ที่คุกคามถึงสวัสดิภาพในชีวิตด้วย ดังภาพข้างล่างที่ว่า "อยากให้คนไทยในเยอรมัน ยิงกบาลแม่งจริงๆ"

 
* * * * * *

 

การโจมตีจากค่ายคลั่งสถาบันฯ ทำมาตลอดกับทุกกลุ่มที่ต้องการให้ประเทศไทยปลดล็อคมาตรา 112

 

 

คงจำกันได้ว่า แม้แต่เฟซบุ๊คของสถานทูตสหรัฐฯ ยังถูกกลุ่มคนเหล่านี้โจมตีอย่างสาดเสียเทเสียมาแล้ว จนเป็นที่น่าสมเพชเวทนาและขบขันในหมู่คนที่มีเหตุผล เพราะมีการไล่สถานทูตอเมริกาให้ออกไปจากประเทศไทย อีกทั้งยังถามคำถามสถานทูตอเมริกาว่า "อเมริกา คนไทยหรือเปล่าจนท้ายที่สุด สถานทูตอเมริกาต้องโพสต์เตือนให้ "งดเว้นการใช้ภาษาที่หยาบคาย รุนแรงหรือขมขู่"

แต่กระนั้น เราก็คงไม่ลุกขึ้นมาพูดถึงพฤติกรรมไร้การควบคุมที่กระทำในนามความรักสถาบันฯ ด้วยการขี่มาตรา 112 ของคนกลุ่มนี้ที่จำนวนไม่น้อยเป็นเยาวชนอนาคตของชาติ เป็นคนชั้นกลางในเมืองหลวง คนเดินสยามพารากอน ชอบกิน KFC ใช้เครื่องสำอางนำเข้าราคาแพง ถือกระเป๋า LV ใบละหมื่นใบละแสน เฝ้าตามกระแสแฟชั่นตะวันตกอย่างไม่ให้ขาดตอนแม้แต่อาทิตย์เดียว

แต่คนกลุ่มนี้กลับเป็นคนที่ทนไม่ได้แม้แต่น้อยที่จะได้ฟังเสียงจากนานาชาติ - ที่นำกระแสการบริโภคของพวกเขา - ยามที่ติติงไทยในประเด็นเรื่องสิทธิมนุษยชน เรื่องเสรีภาพสื่อและเสรีภาพในการแสดงออกในประเทศไทย โดยเฉพาะการใช้กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพมาตรา 112 กับนักคิด นักเขียน และนักสิทธิมนุษยชนอย่างหนัก นับตั้งแต่รัฐประหาร 2549 เป็นต้นมา

ยิ่งกว่านี้มาตรา 112 เป็นหนึ่งในข้อกฎหมายที่นานาชาติพากันเรียกร้องให้รัฐบาลไทยยกเลิกหรือทบทวนมาอย่างมากในช่วงสองปีที่ผ่านจากทั้งสภาเพื่อสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ EU  องค์กรสิทธิมนุษยชนชนที่มีชื่อเสียงในโลกเกือบทุกองค์กร และนักวิชาการมากมาย

คนคลั่งเจ้ายังคิดและเชื่ออยู่หรือว่า  "แม้มีปัญหาในเมืองไทย แต่ถ้ายังสามารถปิดหู ปิดตา ปิดปากชาวต่างชาติได้ต่อไปว่าประเทศไทยไม่มีปัญหา ทุกคนสบายดี และทุกคนในประเทศไทยรักสถาบันฯ ทุกคนยอมก้มหัวด้วยความรักด้วยความเต็มใจ" พวกเขาจะยังคงสร้างความกร่าง ดำรงความเป็นอภิสิทธิ์ชน ด้วยการคุกคามใครก็ได้อย่างไม่ต้องคิดถึงเหตุผล ไร้มารยาท และเลวทรามแค่ไหนก็ได้ ด้วยการอ้างว่ารักสถาบันฯ หรือ

 

การโจมตีจรรยา ยิ้มประเสริฐ 

พวกเขารู้ว่า คนต่างชาติรู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นที่เมืองไทยและร่วมประกาศว่าเรารู้ว่าต้นตอปัญหาเมืองไทย คนคลั่งเจ้าจึงคลั่งเป็นฟืนเป็นไฟ และเกิดการโจมตี จรรยา ยิ้มประเสริฐ ผู้ประสานแอคชั่นเพื่อประชาธิปไตยในประเทศไทย (ACT4DEM) ซึ่งเป็นองค์กรที่จัดทำโปสเตอร์ "NO มาตรา 112 เพื่อเสรีภาพในการแสดงออก" แผ่นนี้ ด้วยท่าทีที่รุนแรง หยาบคาย ถึงขั้นขู่ฆ่า

 

 

โดยมีคนมารับลูกว่า "เพื่อนผมคน เยอรมัน รักในหลวงมาก เด๋วฝากมันจัดหนักให้"

 

เพจไม่ชอบยิ่งลักษณ์เพื่อประชาชนที่่กักกันตัวเอง "Dislike Yingluck for Concentration Citizen"

ทั้งนี้ เราไม่มีเวลาตามเก็บข้อมูลเสียบประจานทุกเพจ  จึงได้แต่ตามไปที่ต้นตอที่เพจ  "Dislike Yingluck for Concentration Citizen"  หรือจะแปลไทยแบบได้ว่า "ไม่ชอบยิ่งลักษณ์เพื่อประชาชนที่กักกันตัวเอง"

 

 

อืม! สงสัยคนตั้งชื่อเพจนี่ฝักใฝ่ลัทธินาซี เพราะ ชื่อเพจนี่ทำให้นึกถึง "Concentration Camps" ที่ฮิตเลอร์สร้างไว้ทั่วในสงครามโลกครั้งที่สองเพื่อกักกันและสังหารชาวยิว จนล้มตายกันเป็นจำนวนมาก ผลพวงจากฮิตเลอร์และสงครามโลกครั้งที่สองคือชีวิตของประชากรโลกกว่า 40 ล้านคน เพราะความคลั่งอำนาจของคนคนเดียว!

* * * * * *

IPAD บุกหน้าวอลล์จรรยา ขู่แจ้งจับมาตรา 112

 

แม้แต่ ในหน้าวอลล์ของจรรยา ก็ถูกคนคลั่งเข้ามาใช้ภาษาหยาบคายบ้างเป็นระยะ โดยเฉพาะในช่วงจัดกิจกรรมเกี่ยวกับการเรียกร้องให้รัฐบาลไทยยกเลิกมาตรา 112 จนต้องบล๊อคบางคนไปเช่นกัน

ล่าสุดก็ถูกนายวิพุธ สุขประเสริฐ หรือ IPAD ที่อ้างตัวว่าเป็นแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) จังหวัดร้อยเอ็ด ที่เป็นคนเดียวที่ได้ดำเนินเรื่องฟ้องร้องดำเนินคดีด้วยกฎหมายมาตรา 112 ร่วม 30 คดี กับนักวิจารณ์สังคม อาจารย์และสื่อมวลชนที่เป็นที่รู้จักดี รวมทั้ง จีรนุช  เปรมชัยพร (ประชาไท) สุรพศ ทวีีศักดิ์ (อาจารย์) และ ประวิตร โรจนพฤกษ์ (นักข่าวอาวุโส เดอะเนชั่น) และจรรยา ยิ้มประเสริฐ

เขาคนนี้มีท่าทีที่อวดเบ่ง และใช้ภาษาที่หยาบคาย "อี" "ไอ้"​ ด่ากราดผู้คนด้วยคำว่า "กะหรี่" "ควย" "หี" "ตุ๊ด" ตลอดเวลา แถมยังอวดเบ่งอยู่เนืองๆ อ้างว่าได้รับคำแนะนำจากตำรวจที่ สภ. ร้อยเอ็ด รวมทั้งให้ชื่อตำรวจมาด้วย อีกทั้งยังพาดพิงถึงสำนักพระราชวังอีกต่างหาก

นี่คือพฤติกรรมของคนที่อ้างรักในหลวงและฟ้องร้องนักคิด นักเขียน นักวิชาการ และสื่อมวลชนถึง 30 คดี

น่าสังเวชใจว่าสังคมไทยปล่อยให้คนบ้าคลั่งคนหนึ่ง ที่ไม่มีวุฒิภาวะและเหตุผลอย่างสิ้นเชิง ใช้กลไกทางกฎหมายมาตรา 112 ที่เปิดช่องโหว่ไว้มากมาย และโทษรุนแรงจนน่าตระหนก เช่นนายวิพุธ สุขประเสริฐ หรือ ฉายา IPAD "ใช้ฟ้องร้องใครก็ได้ กี่คดีก็ได้ ที่สถานีตำรวจใดก็ได้" และยังใช้ช่องโหว่กฎหมายนี้ ไปเที่ยวระราน หยาบคายกับคนทั่วไซเบอร์ จนเป็นเป็นเอือมระอาของผู้คน ได้มากมายขนาดนี้

IPAD ยังเอ่ยอ้างถึงหลายคน


 

... อีห่าอ้วน จีนุ๊ด ก็เหมือนกัน 30 พค. สมมติ ว่ารอด

บอกมันรออีก 30 กว่าคดี ของกู วิพุธ คนเดียว เกินสิบแล้ว

แต่กูว่า 30 พค. ไม่รอดแน่อีเหี้ยอ้วนนั่นน่ะ

อย่าเชื่อ สมสาก มากนัก ไอ้สัดนั่น แค่แปล ban for men เอ๊ย! ban for life ยังแปลผิดเลย

ใครเชื่อสากหงอก for men ก็ควายดีๆ นี่เอง

 


อีกะหรี่ จรรยา กูไม่ได้ อวดเบ่ง แต่กูลงมือจริง

 

เอางี้ คดีมึง ร้อยเวร ชื่อ พตท. บรรเจิด รายละเอียดที่เหลือไปหาเอาเอง

 

  อยากรู้อะไรถามเลย ว่าตอนนี้มึงโดนแล้ว 1 คีด จริงหรือไม่

 

เพราะกูไม่เคยขู่

 

ปล. ฝากให้ประวิตร โรจน ร้อยเวร ชื่อ รตท. เมธี ให้มันไปถาม รตท เมธี ดูได้ว่าตอนนี้ ร้อยเวร เห็นสมควรสั่งฟ้องแล้ว

อันนี้ดิของจริง

 

 

* * * * * *

 

สำหรับท่านที่ชอบอ้างว่ามาตรา 112 ต้องคงไว้ เพราะสถาบันฯ ฟ้องร้องเองไม่ได้

 

ขอตอบว่า ไม่มีกฎหมายข้อใดเลย "ที่ห้ามสถาบันฯ ดำเนินการฟ้องร้องใคร"

แต่ ที่สถาบันฯ ไม่ต้องฟ้องเอง เพราะกฎหมาย โดยเฉพาะมาตรา 112 (และตามมาด้วย พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ 2550) เปิดกระทั่งให้ "ใครก็ได้" ฟ้อง "ใครก็ได้" ทั่วประเทศ  "ที่สถานีตำรวจไหน"ก็ได้ "จะกี่คดีก็ได้" (IPAD คนเดียวล่อไปซะกว่า 30 คดี) โดยไม่ต้องมีหลักฐานมากมายอะไร นี่ไม่เรียกว่าให้อภิสิทธิ์กันจนเกินขอบเขตจนกลายเป็นการคุกคามเสรีภาพประชาชนทั้งประเทศหรอกหรือ?

โดยเฉพาะถ้าบอกว่าทุกคนคือหนึ่งคนเท่ากัน แต่คนทั้งประเทศไม่สามารถฟ้องสถาบันฯ ได้ ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น เพราะสถาบันฯ โดยเฉพาะกษัตริย์อยู่ภายได้การคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญมาตรา 8

แต่คนคิดต่างทั้งประเทศถูกฟ้องหมิ่นสถาบันฯ จากใครก็ได้ ไม่ว่าที่ไหน กี่คดีก็ได้ ไม่ว่าจริงหรือเท็จ และตำรวจก็ต้องรับฟ้องสถานเดียว และอัยการก็ต้องส่งฟ้องสถานเดียวภายใต้มาตรา 112

นี่ไม่ใช่ปัญหาหรือ? นี่ไม่ถือเป็นการคุกคามเสรีภาพประชาชนหรือ?

นอกจาก แค่ทำตามหน้าที่ก็ปฏิเสธไม่ได้แล้ว รัฐบาลตั้งแต่สมัยอภิสิทธิยังตั้งวอรูมหลายคณะ ที่ DSI หนึ่งคณะ และที่ MICT อีกหลายคณะ รวมทั้งลูกเสือไซเบอร์ ที่ไม่ใช่แค่ทำการตามจับ และปิดกั้นเท่านั้น ยังมีกระบวนการล่อซื้อที่ไม่ต่างจากการล่อซื้อจากผู้ค้ายาเสพติด (ด้วยการหลอกมาเป็นเพื่อนชวนคุยเรื่องสถาบันเพื่อเก็บหลักฐาน) แล้วนำกำลังไปบุกจับตัว

เมื่อไม่กี่อาทิตย์ที่ผ่านมาก็มี ชาวไอทีถูกสอยเพราะกระบวนการล่อซื้อ   นี่เรียกได้ว่า ไม่ใช่แค่การทำตามหน้าที่ธรรมดา แต่เป็นกระบวนการปราบจับด้วยวิธีคิดเดียวกันกับการจัดการกับอาชญากรค้ายาเสพติด

คนตั้งคำถามเกี่ยวกับสถาบันฯ ไม่ใช่ผู้ร้าย ไม่ใช่ผู้ค้าหรือผู้เสพยาบ้า ไม่ใช่อาชญากร แต่รัฐมองพวกเขา พวกเราเป็นอาชญากร เพราะทำอาชญากรรมทางความคิด

รัฐบาลที่ไม่เคารพผู้ใช้สิทธิเลือกตั้ง เลือกตัวเองเข้ามาบริหารบ้านเมือง และโหดร้ายกับผู้ลงคะแนนเสียงของตัวเอง เท่านี้ ไม่มีอีกแล้วในประเทศอารยะ?

ซึ่งหน่วยงานเหล่านี้ ยังทำงานอยู่ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ภายใต้การกำกับของ รมต. อนุดิษฐ์ นาครทรรพ และรมต. เฉลิม อยู่บำรุง

ด้วยเหตุนี้  ถึงแม้ว่าจะถูกฟ้องด้วยมาตรา 112 จริงตามคำขู่ของ IPAD  จรรยา ได้ประกาศแล้วว่า จะไม่สู้กับ 112 ว่าตัวเองละเมิดหรือไม่ละเมิด 112 หรือสถาบันกษัตริย์ แต่จะสู้ว่า 112 และ มาตรา 8 ละเมิดคำปฏิญญาว่าด้วยสิทธิมนุษยชนที่ไทยให้สัตยาบันเมื่อปี 2491 และ กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ที่ไทยรับรอง . .

เพราะทุกสิ่ิงที่ได้ทำมา ทั้งงานเขียนและงานรณรงค์ต่างๆ จรรยาได้กระทำ โดยไม่ได้มีเจตนามุ่งร้ายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์  แต่เพื่อเสรีภาพในการแสดงออกและความยุติธรรมในประเทศไทย อีกทั้งยังได้ดำเนินกิจกรรมตามเป้าหมายและแผนกิจกรรมของแอคชั่นเพื่อ ประชาธิปไตยในประเทศไทย (ACT4DEM) ที่เป็นองค์กรต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยในประเทศไทย ที่คนไทยและนานาชาติรู้จักมากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะนี้ 

* * * * * *

เสรีภาพในการแสดงออกเป็นหัวใจของมนุษย์

 

 

การนำเอาตัวอย่างคำด่าทอ และข่มขู่เหล่านี้มาให้ดูกัน เพื่อทำให้สังคมไทยได้ร่วมกันฉุกคิดว่า จะยอมให้การคุกคามคนอื่นอย่างเลวทรามเช่นนี้ กระทำกันได้ต่อไปโดยไม่มีการติติง เพราะคนกลุ่มนี้อ้างว่าทำไปเพราะรักในหลวงกันได้ต่อไปหรือ  การอ้างแบบนี้ โดยไม่ต้องทำตัวให้เป็นสุภาพชนกลับยิ่งจะเป็นการทำร้ายซึ่งภาพลักษณ์ของสถาบันฯ มิใช่หรือ?

เราคงต้องมาร่วมเตือนสติกันและกันในสังคมไทยบ้างว่า "ไม่ว่าจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยในประเด็นอะไรก็ตาม ไม่มีข้อยกเว้นแม้แต่เรื่องความคิดเห็นเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์"  สังคมก็ควรผ่อนปรน ปล่อยให้มีการโต้เถียงกันด้วยเหตุด้วยผล อย่างเคารพศักดิ์ศรีในความเป็นมนุษย์ที่เท่าเทียมกันของมนุษย์แต่ละคน

และต้องลุกมาช่วยกันปรามพฤติกรรมที่ก้าวร้าว รุนแรง ของพวกลัทธินาซีใหม่ทั้งหลาย ที่ชอบใช้ท่วงทำนอง และภาษา ที่นอกจากเหยียดหยามความเป็นมนุษย์แล้ว ยังเต็มไปด้วยคำข่มขู่ คำอาฆาตมาดร้าย และการเสียดสีทางเพศที่ไม่เป็นเรื่องจริงแม้แต่น้อย อาทิ "พวกนี้กลับมาโดนกระทืบแน่นอน"

ในทางตรงกันข้าม น่าเศร้าใจที่นอกจากไม่มีการห้ามปรามแล้ว ผู้ทำหน้าที่แอดมินของเพจคลั่งเจ้าทั้งหลายจำนวนไม่น้อย อาทิ ในเพจที่ยกมาให้ดูนี้ ยังได้แสดงอาการยุยงต่อด้วย โดยไม่มีการห้ามปรามให้คนใช้สติและเหตุผล

 * * * * * *

ก้าวไปข้างหน้าด้วยกันบนความหลากหลายเถิด

คนไทยจำเป็นจะต้องเข้าใจ ว่า ประเทศไทยนั้นมีความหลากหลาย ทั้งมีพื้นที่กว้างใหญ่พอสมควรกว่า ห้าแสนกว่าตารางกิโลเมตร แบ่งออกเป็น 78 จังหวัด (ร่วมหกหมื่นกว่าตำบล)  มีประชากร 66 ล้านคน  ที่มาจากกว่า 40 ชนเผ่า และมีหลายศาสนาและความเชื่อ

หรือ จะเรียกว่ามี 66 ล้านคน  66 ล้านปัญหาก็น่าจะได้ . .ในความหลากหลายและกว้างใหญ่นี้

  •   สังคมไทยจะให้ทุกคนคิดเหมือนกัน ทำอะไรเหมือนกัน และไม่ให้ทางเลือกคนคิดต่างเลยหรือ?
  •   จะไม่ให้ประชาชนทุกคน มีส่วนร่วมในการนำพาประเทศชาติสู่อนาคตที่ศิวิไลซ์บ้างเลยหรือ?
  • จะไม่ยอมให้เสรีภาพในการแสดงออก และแสดงความคิดเห็น ในทุกๆ ด้าน ด้วยเหตุด้วยผลกับพวกเขา /พวกเรา เลยละหรือ?
  •  จะต้องปล่อยให้ประเทศถูกลากลงสู่ความสุดโต่งและหยาบคายและโหดร้ายต่อกันไปเช่นนี้อีกนานแค่ไหน เพราะคิดไม่เหมือนกันเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์?

ประเทศส่วนใหญ่ที่มีสถาบันพระมหากษัตริย์  โดยเฉพาะประเทศ ที่เป็นอารยะและร่ำรวย มีการทำโพลกันมาโดยตลอดว่า ประชาชนต้องการหรือไม่ต้องการสถาบันฯ ทั้งนี้คนต้องการฯ และไม่ต้องการฯ ต่างก็อยู่กันได้  ไม่มีใครลุกขึ้นมาขู่ฆ่า หรือแจ้งตำรวจจับอีกฝ่ายเข้าคุกอย่างง่ายๆ โดยไม่ต้องมีเหตุผล  เพราะไม่รักสถาบันพระมหากษัตริย์ เช่นที่ประเทศไทย

ทำไมเมืองไทย จึงเป็นปัญหามากนัก กับแค่การแก้กฎหมายมาตราเดียวเช่นมาตรา 112  เพื่อทำให้คนคลั่งเช่น IPAD และคนที่มีพฤติกรรมที่นำมาให้เห็นข้างบน ไม่สามารถใช้กฎหมายคุ้มครองพระมหากษัตริย์ตามอำเภอใจ เพื่อจะได้เผยความเป็นนาซีของตัวเองได้ภายใต้ร่มเงาของมาตรานี้

เอาเข้าจริง กฎหมายมาตรา 112 มีไว้เพื่อคุ้มครองคนคลั่งและฉกฉวยประโยชน์จากการรักหรืออ้างว่ารักสถาบันฯ  มากกว่าคุ้มครองสถาบันเอง  และถ้าปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไป คนที่ทำลายสถาบันฯ ไม่ใช่ใครหรอก ก็พวกท่านทั้งหลายนี่แหล่ะ ที่อ้างกันเหลือเกินว่ารักสถาบันฯ

 

***********

ข้อมูลเพิ่มเติม

NO มาตรา 112 ระบาดหนัก แพร่สู้โลกไซเบอร์และที่ประเทศฝรั่งเศส

เกี่ยวกับ แอคชั่นเพื่อประชาธิปไตยในประเทศไทย(ACT4DEM)

ประวัติและผลงาน จรรยา ยิ้มประเสริฐ 

 

ติดตามความเคลื่อนไหวของ ประชาไท ทางอีเมล คลิกอ่าน http://goo.gl/8xIcV หรือเฟซบุ๊ค http://fb.me/Prachatai

Viewing all articles
Browse latest Browse all 51020

Trending Articles