แพทย์ชนบทเผยเป็นครั้งแรกในรอบสิบปีของระบบบัตรทองที่งบเหมาจ่ายรายหัวลดลง ชี้กระทบระบบ 30 บาทครั้งใหญ่
คณะรัฐมนตรีประชุมเมื่อวันที่ 1 พค.ที่ผ่านมา เห็นชอบตั้งงบเหมาจ่ายรายหัวระบบสปสช.ปีงบ 2556 อยู่ที่ 2,755.60 บาทต่อหัว ลดจากปีนี้ 141 บาทต่อหัว หรือลดลง 4.9 % และลดงบส่งเสริมป้องกันโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง 6.3% แพทย์ชนบทชี้เป็นครั้งแรกในรอบสิบปีของระบบบัตรทองที่งบเหมาจ่ายรายหัวลดลง จะสร้างปัญหาให้กับหน่วยบริการและทำให้เป็นระบบสำหรับผู้ป่วยอนาถาเหมือนในอดีตสวนทางกับนโยบายรัฐบาล
ก่อนหน้านี้บอร์ดสปสช.มีมติเห็นชอบให้เสนอรัฐมนตรีตั้งงบเหมาจ่ายรายหัวปี 2556 อยู่ที่ 2,939.73 บาทต่อคน และในอดีตที่ผ่านมามีการเพิ่มงบเหมาจ่ายรายหัวตามการเพิ่มของอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยปีละ 3% และเงินเดือนเพิ่มเฉลี่ย 6% โดยปี 2553 งบเหมาจ่ายรายหัวเพิ่มขึ้น 9% ปี 2554 เพิ่มขึ้น 6% และปี 2555 สมัยรัฐบาลนายกอภิสิทธิ์ อนุมัติให้เพิ่ม 13.8%
นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกีรยติ ประธานชมรมแพทย์ชนบท ชี้ว่า การอนุมัติงบเหมาจ่ายรายหัวปี 2556 ลดลงประมาณ 5% รวมทั้งลดงบส่งเสริมป้องกันโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงอีกกว่า 6% จะทำให้กระทบต่อฐานะการเงิน และการให้บริการของหน่วยบริการเพราะมีค่าใช้จ่ายจากเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ผู้ป่วย สปสช.เข้าไม่ถึงการบริการ การบริการมีคุณภาพต่ำลง กลายเป็นผู้ป่วยอนาถา เพราะผู้ป่วยในระบบสวัสดิการข้าราชการ และประกันสังคม รัฐบาลให้งบประมาณต่อหัวมากกว่า คือเป็นการตั้งงบประมาณที่สวนทางกับที่รัฐบาลประกาศว่าจะสร้างความเท่าเทียมระหว่างกองทุนทั้งสามกองทุน โดยเพิ่มคุณภาพการบริการของระบบ 30 บาท และให้ความสำคัญกับการสร้างสุขภาพและป้องกันโรค
“นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานบอร์ด สปสช. ต้องตอบคำถามสังคมและคนไทยว่า ในยุคสมัยของรัฐบาลนี้ที่ต้องการสร้างความเท่าเทียมของสามกองทุน ต้องการให้ระบบ 30 บาทมีคุณภาพมากขึ้นต้องการเน้นป้องกันมากกว่าการรักษา ทำไมกลับตัดงบเหมาจ่ายรายหัวและงบส่งเสริมป้องกันโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูงลง และเป็นการลดลงเป็นครั้งแรกในรอบสิบปีส่งสัญญาณล้มระบบบัตรทอง” ประธานชมรมแพทย์ชนบทกล่าว
สมัครรับข่าวความเคลื่อนไหวจากประชาไท ผ่านทางอีเมล ดูรายละเอียดที่ http://groups.google.com/group/prachatai-newspaper